เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำทัพสื่อมวลชนร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่อย่างเหนือชั้น จากเชียงใหม่สู่เชียงรายไปกับยนตรกรรมสมรรถนะสูงรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ GLS 350 d 4MATIC AMG Premium และ GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ และ GLC ทั้ง 3 รุ่นได้แก่ GLC 200 d, GLC 200 d AMG Dynamic และ GLC 200 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic พร้อมรถยนต์ Plug-In Hybrid อีก 3 รุ่นได้แก่ Mercedes-Benz E 300 e, Mercedes-Benz C 300 e และ Mercedes-Benz S 560 e
พร้อมเข้าร่วมงานเปิดตัว “บริษัท เจริญมอเตอร์ เชียงราย จำกัด” โชว์รูมและศูนย์บริการ เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการแห่งใหม่ในจังหวัดเชียงราย เสริมศักยภาพการเติบโตของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมตอบรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าในภาคเหนือด้วยโชว์รูมและศูนย์บริการที่ครบครันในทุก ๆ ด้าน
มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดนิ่งที่จะสนองตอบความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยให้ทั่วถึง ครอบคลุม และครบครันยิ่งขึ้น พร้อมไปกับการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับการดำเนินธุรกิจของเรา และเพราะเราเล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของตลาดรถยนต์ลักชัวรีในภาคเหนือ และความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จึงเป็นที่มาของการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ในวันนี้ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าในการได้เข้ามาใกล้ชิดกับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่เราพร้อมจะนำมาเจาะตลาดในภาคเหนืออย่างต่อเนื่องนับจากนี้ พร้อมกับเข้ามารับบริการหลังการขายที่สะดวกสบายยิ่งกว่าที่เคย โดยเราคาดว่า การเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ในจังหวัดเชียงรายในวันนี้จะเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้เพิ่มเป็น 35 แห่งทั่วประเทศไทย โดยมีผู้จำหน่าย เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการในกรุงเทพฯ 18 แห่ง และต่างจังหวัด 17 แห่ง”
มร. บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับการเชิญคณะสื่อมวลชนมาร่วมงานเปิดตัวโชว์รูม และศูนย์บริการแห่งใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในครั้งนี้ นอกเหนือจากการพาทุกคนมาสัมผัสศักยภาพที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นของเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในเมืองไทยแล้ว ยังเป็นโอกาสที่สื่อมวลชนทุกท่านจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นของรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ที่เราจัดเตรียมมาไว้ด้วยกันหลากหลายรุ่นบนเส้นทางเชียงใหม่สู่เชียงรายอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เอสยูวีรุ่น Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium และ Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ พร้อมด้วยรถยนต์ Plug-In Hybrid อีก 3 รุ่นได้แก่ Mercedes-Benz E 300 e, Mercedes-Benz C 300 e และ Mercedes-Benz S 560 e ซึ่งรถยนต์ทุกรุ่นล้วนแล้วแต่เป็นรถยนต์รุ่นพิเศษสมรรถนะเยี่ยมที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ อยากให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสด้วยตัวเอง”
นายพุทธิ ตุลยธัญ รองประธานบริหารฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรายังคงมุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ในปีนี้เรามีแผนการทำงานร่วมกับผู้จำหน่ายทั่วประเทศเพื่อยกระดับการบริการให้ครอบคลุมในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมบำรุง การขยายพื้นที่ให้บริการโดย “บริษัท เจริญมอเตอร์ เชียงราย จำกัด” โชว์รูมและศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4 ไร่ บนถนนเชียงราย–เทิง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พรั่งพร้อมด้วยพื้นที่จัดแสดงรถยนต์ใหม่รุ่นต่าง ๆ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับการรับรองลูกค้า โดยมีศูนย์บริการที่มีจำนวนช่องซ่อมมากถึง 4 ช่องซ่อม สามารถรองรับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ได้มากกว่า 1,000 คันต่อปี เชื่อว่าจะสามารถอำนวยความสะดวกสบายและรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าในภาคเหนือได้อย่างแน่นอน”
สำหรับการเดินทางไปร่วมงานเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ แห่งใหม่ในจังหวัดเชียงราย เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นำทัพสื่อมวลชนร่วมเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ สู่เชียงใหม่ ก่อนจะเปิดโอกาสให้พี่น้องสื่อมวลชนได้ใช้เวลาสนุกกับการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นของรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นต่าง ๆ ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้จัดเตรียมไว้ให้บนเส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย โดยรถยนต์รุ่นพิเศษที่จัดเตรียมไว้ ได้แก่
Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium รถยนต์เอสยูวีระดับ S-Class แบบ 7 ที่นั่งที่จะพาทุกคนก้าวข้ามทุกบรรทัดฐานของความหรูหราด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบายเหนือจินตนาการ พร้อมจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาดใหญ่พิเศษ 12.3 นิ้ว 2 จอต่อเนื่องกัน และระบบสั่งการด้วยเสียง “Hey Mercedes” ดีไซน์ภายนอกมีความสง่างามและความอเนกประสงค์ที่เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์เอสยูวี เพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด ขับเคลื่อนอย่างทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2,925 ซีซี ที่มอบพลังกำลังสูงสุดถึง 286 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร พุ่งทะยานจาก 0–100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลาเพียง 7 วินาที พร้อมการขับขี่อย่างมั่นใจกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “Full time” แบบ 4MATIC เพื่อการควบคุมรถและการทรงตัวบนถนนที่เปียกลื่น รวมถึงการขับขี่บนทางแบบออฟโรดที่ดีที่สุด เพลิดเพลินกับการขับขี่ที่ราบรื่นด้วยระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ที่ให้ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างรวดเร็วและนุ่มนวล พร้อมประหยัดเชื้อเพลิงกว่า
Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ ที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อการขับขี่แบบออฟโรด เติมเต็มประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ชีวิตด้วยดีไซน์แบบ AMG bodystyling รอบคัน ดึงดูดทุกสายตาด้วยล้ออัลลอยขนาด 21” และ กันชนหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตที่ออกแบบได้อย่างลงตัวกับไฟหน้าอัจฉริยะแบบ MULTIBEAM LEDพร้อมครั้งแรกของระบบมัลติมีเดีย MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience ที่เชื่อมโยงผู้ใช้เข้ากับเทคโนโลยีอันชาญฉลาดเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว ขับเคลื่อนอารมณ์สปอร์ตด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดถึง 245 แรงม้า ทะยานจาก 0–100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 7.2 วินาที และสัมผัสขุมพลังแห่งการขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ที่ทลายทุกข้อจำกัดทุกเส้นทางพร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ไร้ขีดจำกัด
Mercedes-Benz E 300 e ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ E 300 e Avantgarde, E 300 e Exclusive และ E 300 e AMG Dynamic รถยนต์พรีเมียมซีดานพร้อมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid เจเนอเรชั่นที่ 3 ภายใต้แบรนด์ EQ มีความโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะจากเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ผสานกับพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ควบคู่กับประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นของแบตเตอรี่ลิเธียม–ไอออนชนิดใหม่ ที่สามารถประจุไฟฟ้าได้มากกว่าเดิม ส่งผลให้ระยะทางสูงสุดสำหรับการขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวเพิ่มขึ้นจากเจนเนอเรชั่นก่อนหน้าถึง 60% และช่วยให้อัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในโหมดไฮบริดเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดีไซน์ภายนอกที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Sensual Purity ส่วนดีไซน์ภายในโดดเด่นและหรูหราในแบบฉบับเมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ ขนาดความจุ 2.0 ลิตร ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน รุ่นใหม่ ขนาดความจุ 13.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ส่งกำลังผ่านเกียร์ 9 สปีด (9G-TRONIC) ให้กำลังสูงสุดรวมกันทั้งระบบ 320 แรงม้า ที่ช่วง 4,500–5,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตร
Mercedes-Benz C 300 e Avantgarde ยนตรกรรมที่ยกระดับเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าแห่งโลกอนาคต จนกลายมาเป็นยานยนต์ประหยัดพลังงานที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid เจเนอเรชั่นที่ 3 ผสานกับรูปลักษณ์ที่หรูหราแต่แฝงไปด้วยดีไซน์สปอร์ต พร้อมให้คุณทะยานสู่จุดหมายด้วยแรงม้าสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 5.4 วินาที และด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,991 ซีซี อันทรงพลังที่ทำงานคู่กับระบบส่งกำลัง 9G-TRONIC จึงช่วยเพิ่มความปราดเปรียวเร้าใจในทุกจังหวะของการเดินทาง
Mercedes-Benz S 560 e AMG Premium ยนตรกรรมที่จะเปลี่ยนนิยามแห่งความหรูหราด้วยการพาทุกคนก้าวล้ำไปอีกขั้นกับเทคโนโลยี Plug-in Hybrid เจเนอเรชั่นที่ 3 ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนและทะยานไปได้ไกลกว่าที่เคย โดยผสานกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทอร์โบคู่สุดทรงพลัง ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นด้วยแรงม้าสูงสุดถึง 376 แรงม้า พร้อมผสานพลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง 122 แรงม้า ทำให้ได้แรงม้ารวมสูงสุดถึง 476 แรงม้า โดดเด่นในทุก ๆ เส้นทางด้วยไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมเทคโนโลยี Ultra Range High Beam ที่ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร ปลอดภัยขั้นสูงสุดด้วย Driving Assistance Package เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ระดับสูง
ผู้สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นต่าง ๆ พร้อมเข้ารับบริการหลังการขายได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ บริษัท เจริญมอเตอร์ เชียงราย จำกัด จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหรือ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.mercedes-benz.co.th