อาวดี้ ประเทศไทย เปิดตัว 2 ยนตรกรรมรุ่นใหม่ ให้ตลาดรถยนต์หรู เผยโฉม The New Audi Q7 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล พรีเมียมเอสยูวีสุดล้ำดีไซน์ใหม่รอบคัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการ หรูหรา กว้างขวางและประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม ในราคาเริ่มต้น 4.849 ล้านบาท พร้อมเผยโฉมอีกหนึ่งทางเลือก The New A6รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า อีกหนึ่งไอคอนของอาวดี้ ที่ขายดีติดชาร์ตของยุโรป ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกที่เยอรมนีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งรุ่น Sedan และ Avant ฉีกทุกกฎเกณฑ์ความคุ้มค่าและความหรูหรา กว้างกว่า สบายกว่า ในราคาสุดเร้าใจยิ่งกว่า A6 ใหม่ Sedan และ Avant ในราคาเท่ากันเพียง 3.399 ล้านบาท เปิดรับจองตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม เป็นต้นไป
นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยถึงกลยุทธ์พัฒนาผลิตภัณฑ์ และการทำตลาดเชิงรุก เพื่อให้แบรนด์อาวดี้รุกเข้าไปนั่งอยู่ในใจลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เหนียวแน่น และยืนยาว รวมถึงกระแทกใจลูกค้ารุ่นใหม่ในทันที อยู่ภายใต้คอนเซปต์ “Attractive and Affordable” ที่มุ่งให้ยนตรกรรมทุกรุ่นโดนใจลูกค้าตั้งแต่แรกเห็น พร้อมจัดออฟชั่นตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า เพื่อให้ทุกการขับขี่ให้ประสบการณ์ที่เหนือกว่า ทั้งความรื่นรมย์ สมรรถนะ ความสะดวกสบาย ที่สำคัญเป็นราคาที่จับต้องได้
“อาวดี้ ประเทศไทย เดินหน้าตามแผนที่ได้ประกาศไว้ โดยมีการเปิดตัว 2 รุ่นใหม่ที่อยู่ในความสนใจของลูกค้า นั่นคือ Q7 ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ Q7 45 TDI quattro S line ราคา 5.299 ล้านบาท และ Q7 45 TDI quattro ราคา4.849 ล้านบาท และยังเปิดตัว The New A6 ที่ถูกปรับโฉมใหม่ให้มีความสปอร์ต หรูหราและทัน สมัยมากขึ้น ในราคาที่คุ้มค่า โดยในรุ่น Sedan คือ A6 40 TFSI S line ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ราคา 3.399 ล้านบาท และA6 Avant 40 TFSI S line ในราคาเท่ากันที่ 3.399 ล้านบาท”
The New Audi Q7 พรีเมียมเอสยูวีที่ได้รับความนิยมทั่วโลกและในประเทศไทย ได้รับการยกระดับรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นในเชิงมุมมองของตัวรถ และทางด้านเทคนิคสะท้อนถึงแนวทางการออกแบบใหม่ของรถยนต์ในตระกูลQ ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบชาร์จ 6 สูบ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 249 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่เร้าใจ 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.9 วินาที เท่านั้น และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 225 กม./ชม. และมากไปกว่านั้น คือเป็นเครื่องยนต์ที่มีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี คือ สี Glacier White, Floret Silver, Orca Black, Samurai Grey, Daytona Grey และ Navarra Blue
ความโดดเด่นของ Audi Q7 ใหม่ที่เห็นได้ชัด คือ ความหรูหรา สะดวกสบายความคล่องตัว ขับสนุก จากมิติตัวถังที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีพื้นที่ใช้งานในห้องโดยสารมากขึ้น กระจังหน้าแบบชิ้นเดียว รูปทรง 8 เหลี่ยม อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของอาวดี้ ได้รับการออกแบบให้กว้างมากกว่ารุ่นเดิม ทำให้ดูหรูหรายิ่งขึ้น และยังทำให้ภาพรวมตัวรถดูมีความกว้างมากขึ้นอีกด้วยภายในช่องกระจังหน้า 8 เหลี่ยม ติดตั้งซี่โลหะแนวตั้ง 6 ซี่ ช่วยทำให้ดูดุดันมากขึ้น
Audi Q7 ใหม่ มาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Adaptive air suspension ที่สามารถปรับเพิ่มระดับความสูงได้สูงสุด 50 มม. ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน และรองรับการขับขี่ในทุกรูปแบบได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดี และความปลอดภัยด้วยไฟหน้าแบบ Matrix LED โดยที่ไฟ LED แต่ละดวงจะทำงานเป็นอิสระแยกจากกัน ทำให้สามารถเลือกจุดตกกระทบของแสงได้ตามความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์ ขณะที่ไฟเลี้ยวทั้งหน้าและหลังเป็นแบบไดนามิค ช่วยกระตุ้นการรับรู้ของรถคันอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสาร Audi Q7 ใหม่ สะท้อนถึงแนวทางการออกแบบใหม่ของอาวดี้ (New design language) ที่ผสมผสานทั้งความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีและการใช้งานที่ลงตัว ใช้งานง่าย สะดวกสบาย พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ แสดงผลและควบคุมแบบสัมผัส (MMI Radio plus) โดยจอด้านบนขนาด 8.8 นิ้ว Full HD ให้ภาพคมชัด ส่วนจอด้านล่างเป็น Full HD เช่นกัน ขนาด 8.6 นิ้ว ขณะที่ฟังก์ชันการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto โดย Apple CarPlay สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบไร้สาย Wireless ผ่าน Bluetooth หรือใช้สาย USB อีกทั้งยังเพิ่มความหรูหรา และความสุนทรีย์ในห้องโดยสาร ด้วยไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร ซี่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 30 สี เพลิดเพลินและรื่นรมย์ด้วยเครื่องเสียงที่นำเอาสุดยอดของระบบเครื่องเสียงที่มีชื่อเสียงมารวมกัน รวมถึง BOSE Premium Sound system แบบ 3 มิติ ที่ติดตั้งอยู่ใน Q7 45 TDI quattro S line
สำหรับ Audi The New A6 ที่เผยโฉมพร้อมกัน 2 รุ่น คือ A6 40 TFSI S line และ A6 Avant 40 TFSI S line นายกฤษณะกร เปิดเผยว่า A6 ใหม่ เป็นอีกรุ่นที่สะท้อนถึงความพยายามของอาวดี้ที่อยากให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงยนตรกรรมที่หรูหรา ทันสมัย ในระดับราคาที่คุ้มค่า มั่นใจว่าจะเป็นอีกรุ่นที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม
The New A6 ติดตั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร 4 สูบ และระบบไมลด์ไฮบริดให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร A6 40 TFSI S line ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 237 กม./ชม.ส่วน A6 Avant 40 TFSI S line อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ 8.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 232 กม./ชม.
ความโดดเด่นของ A6 ใหม่ คือ ความหรูหรา ล้ำสมัย สปอร์ต สะดวกสบาย และให้ความคุ้มค่า มาพร้อมชุดแต่ง S line ทั้งกันชนหน้า กันชนหลัง ช่องดักอากาศที่ผลิตจากอลูมิเนียม สเกิร์ตข้าง อุปกรณ์ควบคุมการไหลเวียนอากาศ (diffuser) ด้านหลัง และปลายท่อไอเสียอลูมิเนียม ไฟหน้าเป็นแบบ Audi Matrix LED เทคโนโลยีที่ช่วยให้การส่องสว่างของไฟหน้ามีความแม่นยำที่สุด และส่องสว่างให้ได้พื้นที่มากที่สุด โดยไม่รบกวนผู้อื่น ขณะที่ไฟเลี้ยวด้านท้ายเป็นแบบไดนามิค ที่การกระพริบของไฟจะไล่จากด้านในสู่ด้านนอก นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องมองหลัง และเซ็นเซอร์ช่วยจอดซึ่งมีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งานยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารของ A6 ได้รับการออกแบบให้มีความสะดวกสบาย เอื้อต่อการขับขี่มากที่สุด โดยรูปแบบ virtual cockpit จะเน้นแสดงข้อมูลที่ผู้ขับเป็นผู้เลือก เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับการขับขี่ เพราะไม่ต้องละสายตาจากถนน ขณะที่มือก็ไม่ปล่อยจากการควบคุมพวงมาลัยแต่อย่างใด ระบบนำทางรูปแบบใหม่ MMI Navigation ติดตั้งมาให้ใน A6 ตอบสนองการสั่งการด้วยระบบสัมผัสรวดเร็ว ให้คุณภาพภาพที่ชัดเจน มาพร้อมทัชกรีน 2 จอแบบ Full HD จอด้านบนขนาด 10.1 นิ้ว และจอด้านล่างขนาด 8.6 นิ้ว เช่น ฟังก์ชันการทำงานรองรับ Apple CarPlay โดยสามารถเชื่อมต่อกับไอโฟนได้ง่ายๆ ทั้งแบบไร้สาย Wireless ผ่าน Bluetooth หรือใช้สาย USB เพิ่มความสะดวกในการใช้งานภายในห้องโดยสารยามค่ำคืน ด้วยไฟ LED สีขาว ที่เพิ่มการส่องสว่างอย่างเต็มที่ เบาะนั่งแบบสปอร์ต กระชับลำตัวช่วยให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างง่ายดาย เบาะหรูหราหุ้มหนังแท้ Valcona ให้ผิวสัมผัสละเอียด ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้ง 2 รุ่น
A6 40 TFSI S line มีสีให้เลือก 5 สี คือ Glacier White, Floret Silver, Mythos Black, Daytona Grey และ Firmament Blue ส่วน A6 Avant 40 TFSI S line มีให้เลือก 5 สี คือ Glacier White, Mythos Black, Daytona Grey, Firmament Blue และ Tango Red
ลูกค้าอาวดี้ที่จองรถใหม่จะได้รับการดูแลจาก Audi Protection ด้วยการรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี ชมยนตรกรรมนำเข้าใหม่ของอาวดี้ ได้ที่
* เงื่อนไขพิเศษเฉพาะรุ่นที่บริษัทฯ กำหนด