ฟอร์ด ประเทศไทย สนับสนุนนักศึกษาจากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) ในภารกิจ “วอร์ด Cowit 2020” (Co-Creation Ward Innovation Technology 2020) “หุ่นยนต์และอุปกรณ์” ประกอบไปด้วย หุ่นยนต์ “น้อง C และ น้อง W” ตู้ฆ่าเชื้อด้วยแสง UVC ประตูอัตโนมัติหน้าห้องผู้ป่วย เครื่องติดตามการให้สารละลายแก่ผู้ป่วย พร้อมกันนี้ทีมวิศวกรของโรงงานฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) ยังได้นำพื้นฐานหุ่นยนต์ที่นักศึกษาจากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) ประดิษฐ์ขึ้นมาพัฒนาเป็นหุ่นยนต์เพื่อส่งมอบให้โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ไว้ใช้ในการปฏิบัติภารกิจเพิ่มอีก 1 ตัว โดยมีนายแพทย์ เกรียงไกร ตั้งจิตรมณีศักดา ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เป็นผู้รับมอบ
“ฟอร์ดมีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการทำกิจกรรมเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้แก่สังคมเสมอมา ฟอร์ดและทีมวิศวกรจากโรงงานฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำทรัพยากรและความเชี่ยวชาญของฟอร์ดมาให้การสนับสนุนนักศึกษาจากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ในการพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อสนับสนุนการทำงานบุคลากรทางการแพทย์ในภารกิจ “วอร์ด Cowit 2020” เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการสัมผัส และแบ่งเบาภารกิจในการดูแลผู้ป่วย ฟอร์ดเชื่อว่าสิ่งที่พนักงานได้ร่วมสนับสนุนในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้แก่นักศึกษาในการพัฒนาโครงการดีๆ เพื่อสังคม รวมถึงเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติภารกิจดูแลผู้ป่วยในสมาร์ทวอร์ดที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์” นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
สำหรับ “หุ่นยนต์และอุปกรณ์” ในภารกิจ “วอร์ด Cowit 2020” ของนักศึกษาจากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) ประกอบไปด้วย
• หุ่นยนต์ที่ใช้ในการนำส่งอาหารและยาให้กับผู้ป่วยจำนวน 2 ตัว โดยตัวแรกคือ “น้อง C” ย่อมาจากคำว่า Collaborate หมายถึงการร่วมมือร่วมใจในการสร้างสรรค์ พัฒนา ระหว่างทีมแพทย์และอาจารย์และนักศึกษาสาขาวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ พีไอเอ็ม พร้อมด้วยผู้ร่วมสนับสนุนจากบริษัทต่างๆ มากมาย และตัวที่ 2 คือ “น้อง W” มาจากคำว่า Well หมายถึงความคาดหวังของทีมผู้มีส่วนร่วมทุกท่านประสงค์ให้ทุกอย่างกลับมาดีดังเดิม ทั้งสุขภาพของผู้ติดเชื้อ สถานการณ์โควิด-19 ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจทั่วโลก รูปแบบการทำงานของหุ่นยนต์ “น้อง C และ น้อง W” คือ เดินตามเส้นทางและใช้แผ่น RFID เป็นตัวช่วยในการตรวจสอบตำแหน่งของห้อง ซึ่งทำงานง่าย สะดวก เพียงกดปุ่มหมายเลขห้องที่ต้องการ จากนั้นหุ่นยนต์จะนำส่งอาหารและยาไปให้ในห้องผู้ป่วย โดยต่อ 1 รอบสามารถทำได้สูงสุดถึง 6 ห้อง ซึ่งจะทำการประมวลผลอัตโนมัติในการเลือกเส้นทางห้องใกล้ที่สุดไปจนถึงห้องไกลที่สุด จากจุดปล่อยหุ่นยนต์ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วหุ่นยนต์อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค ดังนั้นหุ่นยนต์จะต้องเดินไปยังตู้ฆ่าเชื้อ UVC โดยอัตโนมัติ ทั้งนี้การอบฆ่าเชื้อจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเชื้อโรคได้ถูกกำจัดเป็นที่เรียบร้อย และพร้อมสำหรับการใช้งานต่อไป
ผศ.เกรียงไกร ทัศนวิภาส อาจารย์ประจำ สาขาวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี พีไอเอ็ม หัวหน้าทีมผู้พัฒนา คิดค้น“วอร์ด Cowit 2020” กล่าวว่า “เรานำจุดเด่นของระบบของหุ่นยนต์เชื่อมเข้ากับเทคโนโลยีทางวิศวะเชิงเทคนิค สร้างโปรแกรมการใช้งานให้สะดวกต่อการทำงาน จับจุดเด่นของระบบ Part User Interface (UI) ให้ใช้งานง่าย โดยทีม Developer ของเราเป็นนักศึกษาด้าน Robotic Engineer ที่ทดลองปรับเปลี่ยนระบบ พัฒนาฟังก์ชันการทำงานไปกับบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นผู้ใช้งานจริง มีอุปกรณ์ การดูแลรักษาค่อนข้างง่าย ใช้งบประมาณการผลิตต่ำ ประสิทธิภาพการใช้งานสูง ซึ่งโครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจ เพื่อช่วยบุคลากรทางการแพทย์ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ โดยคณะทีมงานประกอบด้วยทีมศัลยแพทย์ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ อาจารย์ นักศึกษา สาขาวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี พีไอเอ็ม จำนวน 9 คน รวมถึงบริษัทพาร์ทเนอร์ ที่เข้ามาช่วยสนับสนุน อาทิบริษัท ออลล์ เวลเนส จํากัด บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอ็ม.ที.คอนโทรล แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด ให้เกิดระบบอัจฉริยะนี้ขึ้น”
“ล่าสุดได้พัฒนาหุ่นยนต์นำส่งอาหารและยาถึงเตียงผู้ป่วยโดยอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสในการติดเชื้อจากการสัมผัสกับประตู พร้อมด้วย เครื่องติดตามการให้สารละลายแก่ผู้ป่วย อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร เพื่อสนับสนุนการทำงานบุคลากรทางการแพทย์ ลดการตรวจให้สารละลายตามรอบเวลา ซึ่งปกติพยาบาลจะต้องเข้าไปตรวจการให้สารละลายของผู้ป่วยเป็นรอบตามเวลาที่กำหนด เพื่อป้องกันการไหลที่อาจไม่ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งสามารถติดตามผ่านโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันได้จากสมาร์ทโฟน ในปัจจุบันเครื่องดังกล่าวมีราคาค่อนข้างสูง ทางทีมจึงคิดค้นเครื่องนี้ขึ้นมาในราคาถูกและได้ประสิทธิภาพ ถือได้ว่าตอบโจทย์ในการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ที่ดีอีกทางหนึ่งในอนาคตอันใกล้นี้”ผศ.เกรียงไกร กล่าวเสริม
นพ.เกียรติศักดิ์ ทัศนวิภาส ศัลยแพทย์ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ผู้ทดลองใช้ “วอร์ด Cowit 2020”กล่าวว่า “โควิด-19 เป็นโรคใหม่ แพทย์จึงต้องประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา และหาวิธีป้องกันช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อในการสัมผัสกับผู้ป่วย ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมาก เพื่อปรับตัวให้เกิดความปลอดภัยในการปฏิบัติงานสูงสุด เราทำงานร่วมกับวิศวกรได้ทดลองและพัฒนาไปด้วยกัน “วอร์ด Cowit 2020” เข้ามาตอบโจทย์ส่วนนี้ จากการใช้งานจริงพบว่า โปรแกรมใช้งานง่าย ตัวหุ่นดีไซน์ให้มีตะขอเหมาะกับแพ็กเกจจิ้งอาหาร–ยา โดยระบบการทำงานทั้งหมดสั่งการผ่านแอปพลิเคชัน ตั้งแต่ต้นจนหุ่นยนต์ผ่านการฆ่าเชื้อเสร็จสิ้น จึงสะดวก ไม่ยุ่งยาก ลดความผิดพลาดของการดูแลผู้ป่วย สร้างความเชื่อมั่นกับผู้ใช้งาน ไม่เพิ่มขั้นตอนการทำงาน เพียงแค่ผู้ใช้งานเรียนรู้และควบคุมขั้นตอนการทำงานให้ถูกต้อง”
ปัจจุบันระบบจัดการหอพักผู้ป่วยอัจฉริยะ “วอร์ด Cowit 2020” ติดตั้งและได้ทดสอบภายในพื้นที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สร้างความพึงพอใจและอำนวยความสะดวกให้กับแพทย์และบุคลากร ช่วยปฏิบัติงาน ดูแลผู้ป่วยระยะไกล ลดความเสี่ยงในการใกล้ชิดและสัมผัส ถือเป็นก้าวแรกของความสำเร็จ ที่อาจารย์และทีมนักศึกษาสาขาวิศวะหุ่นยนต์ฯ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) ได้นำความรู้ความเชี่ยวชาญ ผนวกความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลผู้ป่วยในอนาคต เตรียมพร้อมการเผชิญหน้ากับสถานการณ์โควิด–19 และก้าวต่อไปจากนี้ ทีมผู้พัฒนาอยู่ระหว่างการพัฒนาชิ้นงานในเฟสถัดไปด้วยความมุ่งมั่นเพื่อสร้างเครื่องมือ นวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยเป็นส่วนหนึ่ง สนับสนุนวงการแพทย์ไทยต่อไป
ฟอร์ดร่วมกับพันธมิตรสนับสนุนนักศึกษาจากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) ในภารกิจ “วอร์ด Cowit 2020” |
ทีมวิศวกรของโรงงานฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) ได้นำพื้นฐานหุ่นยนต์ที่นักศึกษาจากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) ประดิษฐ์ขึ้นมาพัฒนาเป็นหุ่นยนต์เพื่อส่งมอบให้โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ไว้ใช้ในการปฏิบัติภารกิจเพิ่มอีก 1 ตัว |