การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส 2019 (โควิด–19) ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั่วโลก ทำให้นักเดินทางต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามวิถีใหม่ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพอนามัยมากยิ่งขึ้น ล่าสุด ผลสำรวจหัวข้อ ‘อนาคตการท่องเที่ยว’ (Future of Travel) โดยศูนย์วิจัยด้านการตลาด Ipsos ได้สำรวจความคิดเห็นจากนักท่องเที่ยวกว่า 11,000 คน จาก 11 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่าคนไทยกว่า 85% มีแผนเดินทางท่องเที่ยวภายในปีนี้ และกว่า 84% อยากท่องเที่ยวในประเทศซึ่งปัจจัยสำคัญของการท่องเที่ยวตามวิถีใหม่ในปัจจุบัน คือ การมีรถยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ทั้งการใช้ชีวิตประจำวันและการออกเดินทางไปท่องเที่ยวกับครอบครัว
โรดทริป: เทรนด์การท่องเที่ยวหลังโควิด-19
ผลสำรวจดังกล่าวยังพบว่าหลังคลายล็อกดาวน์ นักท่องเที่ยวทั่วโลกถึง 70% มีแนวโน้มที่จะใช้รถยนต์ในการเดินทางมากขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลในสหรัฐอเมริกา โดยแบบสอบถามจาก MMGY Travel Intelligence เผยว่านักเดินทาง 67% เลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับผลสำรวจจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว Skift ที่พบว่า ชาวอเมริกันกว่า 2 ใน 3 วางแผนเดินทางในรูปแบบโรดทริปหลังวิกฤตโควิด-19
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวชาวไทยถึง 71% ที่ตอบแบบสอบถามจาก Ipsos ระบุว่าวางแผนจะเดินทางภายในประเทศในปีหน้า โดยเลือกที่จะเดินทางด้วยรถยนต์ นักท่องเที่ยวหลังยุคโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่สามารถขับรถไปได้ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและธุรกิจในท้องถิ่นและกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศได้อีกทาง
เสน่ห์ของการขับรถเที่ยว
การท่องเที่ยวแบบโรดทริปกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เพราะการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเป็นรูปแบบการเดินทางที่ปลอดภัยจากการแพร่กระจายของโรค นอกจากนี้การขับรถเที่ยวยังมีเสน่ห์และข้อดีมากมาย การขับรถไปเยือนสถานที่ใหม่ๆ ทำให้นักเดินทางสามารถชื่นชมทิวทัศน์สองข้างทางและสำรวจสภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย เพิ่มความสนุกสนานมากขึ้นอีกเมื่อเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้าทายแนวผจญภัยแบบออฟโรด
การเดินทางด้วยรถยนต์พร้อมกับเพื่อนหรือครอบครัว ยังเป็นการเดินทางที่มีความหมาย เพราะทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกันบนรถ ในกรณีที่มีสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมทางหลายวัยก็มีความยืดหยุ่นและสะดวกสบายหากต้องแวะพักรถ เข้าห้องน้ำ หรือรับประทานอาหารระหว่างทาง
เลือกรถที่พร้อมสำหรับการผจญภัย
แน่นอนว่า ปัจจัยสำคัญของการท่องเที่ยวตามวิถีใหม่ คือ รถยนต์ ดังนั้นการเลือกยานพาหนะคู่ใจสำหรับการเดินทาง จึงควรเลือกรถยนต์ที่เต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะ ตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์การเดินทางที่หลากหลาย รถเอสยูวีเป็นรถที่ตอบโจทย์เทรนด์การท่องเที่ยวหลังโควิด–19 เพราะมีข้อได้เปรียบมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางเหมาะสำหรับการเดินทางเป็นหมู่คณะ มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย
รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางที่ขับสนุกอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ จึงเหมาะกับการท่องเที่ยวเดินทาง ด้วยสมรรถนะที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เพื่อให้มอบประสิทธิภาพและความคล่องตัวเมื่อขับขี่ในเมือง แต่ยังสามารถลุยสมบุกสมบันได้อย่างเหนือชั้นเมื่อขับขี่แบบออฟโรด ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ (Terrain ManagementSystem) และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ตอบโจทย์การเดินทางทุกรูปแบบ จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เปี่ยมประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุดในเซ็กเมนต์
ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC™ 3 ยังทำให้การเดินทางสนุกสนานมากขึ้น เพราะสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ ทั้งเพลงพอดแคส และหนังสือเสียงได้ตลอดเส้นทาง และยังมีระบบแผนที่นำทางโดยใช้สัญญาณจากดาวเทียม ที่เพิ่มความมั่นใจเมื่อเดินทางในพื้นที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น ระบบประตูท้ายเปิด–ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี ช่องเสียบปลั๊กในรถ และช่องยูเอสบี ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางแบบโรดทริป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งแคมป์ท่ามกลางธรรมชาติ เพื่อให้อุปกรณ์ต่างๆ ยังเชื่อมต่อได้เสมอ นับเป็นเป็นพาหนะที่พร้อมสำหรับการเดินทางตามวิถีใหม่ได้อย่างแท้จริง
เมื่อพิจารณาถึงข้อดีของการมีรถเอสยูวีที่ตอบโจทย์เทรนด์การท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่เพื่อให้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวในวันพักผ่อนของครอบครัวได้อย่างสบายใจ หากลูกค้าสนใจเป็นเจ้าของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ฟอร์ดพร้อมมอบแคมเปญสุดพิเศษแห่งปี รับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน สำหรับลูกค้าที่จองและออกรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2563 โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ford.co.th/Ford-DrivelineCare และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฟอร์ด คอลเซ็นเตอร์ หมายเลข 1383