บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรม “SUZUKI CELERIO 1999 No Boundary Journey” ชวนคณะสื่อมวลชนร่วมพิสูจน์สมรรถนะเพื่อตอกย้ำความสำเร็จของ SUZUKI CELERIO คอมแพคอีโคาร์คุณภาพเกินตัว กับการฝ่า 4 ภารกิจสุดท้าทาย ผ่านการเดินทางไปยัง 4 จังหวัด ใน 4ภาคของประเทศไทย กับระยะทางรวมกว่า 1,999 กิโลเมตร
นายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า กิจกรรม “SUZUKI CELERIO 1999 No Boundary Journey” เพื่อสานต่อความสำเร็จและตอกย้ำให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงสมรรถนะของ SUZUKI CELERIO รถอีโคคาร์ซึ่งเป็น “ที่สุดแห่งความคุ้มค่า” และกำลังสร้างยอดขายได้เป็นอย่างดี โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา SUZUKI CELERIO ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค จนสามารถสร้างยอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ 4,351 คัน คิดเป็น 295% เมื่อเทียบกับปี 2562 ส่วนในช่วง 2เดือนแรกของปี 2564 มียอดจองอยู่ที่ 648 คัน
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อต้องการสื่อสารให้ผู้บริโภคได้รับรู้ว่านอกจากจะเป็นรถยนต์ที่มีความคล่องตัวในการขับขี่สูง มอบความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงตามแบบฉบับรถอีโคคาร์ ยังพร้อมมอบอรรถประโยชน์ในการใช้งานให้แก่ผู้เป็นเจ้าของได้อย่างเหนือชั้น จนถูกยกให้เป็นอีโคคาร์ที่มีความคุ้มค่า คุ้มราคามากรุ่นหนึ่งในตลาดรถยนต์เมืองไทย ซึ่งรูปแบบของกิจกรรม “SUZUKI CELERIO 1999 No Boundary Journey” จะเป็นการท้าพิสูจน์สมรรถนะอันไร้ขีดจำกัดของอีโคคาร์ขนาดกะทัดรัดอย่าง SUZUKI CELERIO ว่าสามารถพาคุณเดินทางไปได้ทั่วประเทศไทย ผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงความโดดเด่นของรถรุ่นนี้ได้อย่างแท้จริง กับ 4 ภารกิจ ที่ต้องเดินทางไปยัง 4 จังหวัด ใน 4 ภาคของประเทศไทยกับระยะทางรวมกว่า 1,999 กิโลเมตร
ภารกิจที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ – ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางเพื่อพิสูจน์ความอเนกประสงค์ของ SUZUKI CELERIO ด้วยการให้ผู้สื่อข่าวที่เข้าร่วมกิจกรรมขับรถทางไกลถึง 445กิโลเมตร พร้อมกับการขนสัมภาระเต็มคัน เพื่อท้าทายทุกความเชื่อและแสดงให้เห็นว่าอีโคคาร์ขนาดกะทัดรัดรุ่นนี้มีพื้นที่เพียงพอต่อการใช้งานได้ตามความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 254 ลิตร สามารถจัดวางสิ่งของได้ง่าย และปรับพื้นที่เก็บของได้หลากหลาย
ภารกิจที่ 2 เส้นทางกรุงเทพฯ – ระยอง ด้วยระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร จึงชวนสื่อมวลชนไปท้าพิสูจน์เรื่องของสมรรถนะการขับขี่ ทั้งเรื่องของอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ ช่วงล่างแน่นหนึบ ยึดเกาะถนน ผ่านเส้นทางที่มีความหลากหลายของสภาพถนนและการจราจรครบทุกรูปแบบได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
ภารกิจที่ 3 เส้นทางกรุงเทพฯ – นครราชสีมา (เขาใหญ่) ระยะทางกว่า 515 กิโลเมตรชวนสื่อมวลชนมาท้าพิสูจน์ความประหยัดอย่างเหนือชั้น ด้วยการแข่งขันขับประหยัดน้ำมัน ที่จะถูกควบคุมภายใต้กฎกติกาอันเป็นมาตรฐานอย่างเข้มงวดจากคณะกรรมการผู้จัดกิจกรรมการแข่งขัน
ภารกิจที่ 4 เส้นทางกรุงเทพฯ – นครสวรรค์ ระยะทางรวมประมาณ 539 กิโลเมตร กับการชวนสื่อมวลชนพร้อมกับจำนวนผู้โดยสารรวม 4 คน ไปสัมผัสถึงความสบายของห้องโดยสารที่กว้างกว่าที่คิด ด้วยพื้นที่บริเวณเหนือศีรษะและพื้นที่วางขา ที่จะทำให้เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
ทั้งนี้ SUZUKI CELERIO คอมแพคอีโคคาร์คุณภาพเกินตัว ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “ความคุ้มค่าและประหยัดในการใช้งาน” รวมถึง “ความพึงพอใจในการขับขี่”ซึ่งนับเป็นรถยนต์ที่สามารถตอบสนองการใช้งานจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ มอบความประหยัดคุ้มค่า ขนาดห้องโดยสารที่กว้างสบายมีพื้นที่รองรับการเดินทางที่สะดวกสบายมากพอ ทั้งห้องโดยสารตอนหน้าและห้องโดยสารตอนหลังพร้อมด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ จุสัมภาระได้มากเกินคาด อีกทั้งผู้ขับขี่ยังมั่นใจได้ในสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ มอบพละกำลังและความสามารถเกินตัว มีสมรรถนะการขับที่ดี ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผนวกกับรูปลักษณ์ภายนอกและภายในห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบให้ดูโดดเด่นสะดุดตา เสริมความอุ่นใจด้วยระบบและอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ตอกย้ำภาพลักษณ์ของซูซูกิเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตรถอีโคคาร์ อีกทั้งยังมีราคาจำหน่ายที่ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจครอบครองได้ง่าย ในราคาเริ่มต้นเพียง328,000 บาท ซึ่งยังมาพร้อมโปรโมชั่นที่ลูกค้าสามารถผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,999 บาท ต่อเดือน พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันฐานลูกค้าของ CELERIO ขยายออกไปกว้างมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงลูกค้าวัยทำงานรุ่นใหม่ แต่ยังกลายเป็นรถของครอบครัวที่สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุม คุ้มค่าด้วยคุณภาพให้ประโยชน์ใช้สอยสูงสุด มีสมรรถนะที่ดีมีความคุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวันทุกวัตถุประสงค์ ส่งผลให้อีโคคาร์รุ่นนี้ยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามซูซูกิยังคงคำนึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าที่จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีและมีคุ้มค่าในทุกๆ ด้าน อีกทั้งซูซูกิมีความมุ่งมั่นทุ่มเทในการพัฒนายกระดับงานด้านบริการหลังการขายด้วยกลยุทธ์ในการดูแลและเข้าถึงลูกค้าด้วยความจริงใจและใส่ใจที่จะมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน