บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดประกาศแต่งตั้ง มร. เออิอิชิ โคอิโตะ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ ต่อจาก มร. โมะริคาซุ ชกกิ ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวมานานถึง 6 ปี ทั้งนี้ มร. ชกกิ จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ให้กับบริษัทฯ ต่อไปในบทบาทใหม่ในตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริษัท โดยมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 นี้เป็นต้นไป
มร. โคอิโตะ เริ่มทำงานร่วมกับ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น มาตั้งแต่ปี 2537 และได้รับการมอบหมายให้รับผิดชอบในตำแหน่งที่สำคัญต่างๆ อาทิ ด้านการวางแผนผลิตภัณฑ์ ด้านการขายและการตลาด รวมทั้งได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลธุรกิจที่หลากหลายในต่างประเทศ ต่อมาในปี 2557 ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งเป็น General Manager, After Sales Planning Department มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นDivision General Manager, ASEAN A Division และก้าวขึ้นเป็น Assistant Co-COO เมื่อช่วงต้นปี 2563
และในเดือนกันยายนปี 2563 มร. โคอิโตะ ได้รับการแต่งตั้งเป็น กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายในประเทศ สายงานกลยุทธ์การขาย สายงานพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย และสายงานบริการหลังการขาย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย โดย มร. โคอิโตะ ได้ร่วมกับ มร. ชกกิ ผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างการดำเนินงาน พร้อมมุ่งมั่นเดินหน้าในการขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้ก้าวสู่ความสำเร็จและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยังเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันให้แก่บริษัทฯ เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า พร้อมมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเป็นผู้นำยานยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยการแต่งตั้ง มร. โคอิโตะ นี้ยังแสดงถึงความต่อเนื่องและความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย
ทั้งนี้ มร. ชกกิ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2558 จะยังคงให้การสนับสนุนการบริหารงานของบริษัทฯ ต่อไปในบทบาทใหม่ ด้วยความเชี่ยวชาญพร้อมประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยที่ขับเคลื่อนให้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กลายเป็นหนึ่งในผู้นำของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทย และยังมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ ที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เพื่อการจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปยังทั่วโลกอีกกว่า 120 ประเทศ พร้อมกันนี้ มร.ชกกิ ยังมีส่วนสำคัญในความสำเร็จของบริษัทฯ ที่สามารถผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ ครบ 6 ล้านคันจากศูนย์การผลิตรถยนต์แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ในปีนี้
ด้วยประสบการณ์และความสามารถของทั้ง มร. โคอิโตะ และ มร. ชกกิพร้อมความมุ่งมั่นในการเดินหน้าเพื่อขับเคลื่อน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ให้ก้าวสู่ความสำเร็จและเติบโตอย่างแข็งแกร่งภายใต้แผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ที่ให้ความสำคัญกับภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย