ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ส่งมอบรถ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit (รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย) ให้แก่ หมอแล็บแพนด้า“ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด–19 ในเชิงรุกแบบเคลื่อนที่ พร้อมเดินหน้าโครงการ “SUZUKI Cause We Care-เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” ซึ่งนอกเหนือจากการคำนึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าที่จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีและมีคุ้มค่าในทุกๆ ด้านแล้ว ซูซูกิยังคงเอาใจใส่ในการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับช่วยเหลือเกื้อกูลชุมชนและสังคมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งตลอดการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นอกเหนือจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และงานบริการเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าชาวไทยทุกท่าน สิ่งหนึ่งที่ซูซูกิให้ความสำคัญและมุ่งมั่นลงมือทำมาโดยตลอด คือการตอบแทนสังคมไทยผ่านการดำเนินกิจกรรม CSR ต่างๆ
นายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “ในช่วงที่ผ่านมา ซูซูกิผนึกกำลังกับผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิเข้าไปมีส่วนในการปรับปุรงคุณภาพชีวิตของชุมชน ผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ เช่น โครงการ“รถยนต์ซูซูกิปันสุข” พร้อมตั้งตู้ “ซูซูกิ ปันสุข” เพื่อบรรเทาภาระประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด–19 กิจกรรมเชิญชวนลูกค้านำรถเข้ารับบริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งยังรวมไปถึงการสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี อบรมเพิ่มเติมทักษะพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่แล้วให้เกิดความสามารถที่โดดเด่นขึ้นมาทำให้พนักงานทุกระดับสามารถเติบโตในหน้าที่ตามสายงาน ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีแก่พนักงานและมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ อีกทั้งยังมุ่งหวังให้องค์กรและชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน”
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจดังกล่าว ในปีนี้ ซูซูกิจึงได้เดินหน้าโครงการ “SUZUKI Cause We Care” โดยล่าสุดได้ทำการร่วมมือกับทาง ศูนย์นวัตกรรม KMITL FIGHT FOR COVID-19 และศูนย์วิจัยและออกแบบงานสร้างสรรค์(Research and Creative Design Center: RCDC) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในการนำ SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์มาตกแต่งให้เป็นไปได้มากกว่า Food Truck ด้วยการดัดแปลงให้เป็นรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย (Biosafety Mobile Unit) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด–19 ในเชิงรุกแบบเคลื่อนที่ โดยตู้ชีวนิรภัย (biosafety unit) ที่ติดตั้งอยู่บนกระบะรถ SUZUKI CARRY ถูกออกแบบโดยใช้หลักการ Human-Centered Design ที่คำนึงถึงพฤติกรรมการใช้งานของผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ ทั้งในด้านดีไซน์และฟังก์ชันใช้สอยที่ตอบรับความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างตรงจุด มีระบบปรับและกรองอากาศด้วย HEPA Filter ที่มีขนาดหนากว่าปรกติด้วยวัสดุที่ทำจากเทคโนโลยีเส้นใยขั้นสูง มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นที่สูงกว่าแบบปกติมากยิ่งขึ้น และระบบแรงดันบวก (positive pressure) เพื่อป้องกันแพทย์หรือนักเทคนิคการแพทย์ผู้เก็บตัวอย่างจากภายในรถได้รับอันตรายจากเชื้อโรค ทำให้ลดการติดเชื้อโรคของผู้ปฏิบัติงาน และลดการกระจายเชื้อโรคออกสู่ภายนอกสิ่งแวดล้อม และเพื่อลดค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย
SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit ยังถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการรองรับการเก็บตัวอย่างได้มากกว่า 300 ตัวอย่างต่อวัน ด้วยสมรรถนะและความคล่องตัวของรถ SUZUKI CARRY ยังสามารถนำไปใช้เก็บตัวอย่างในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก ลดปัญหาความแออัดในสถานพยาบาล และเป็นแนวทางหนึ่งในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเฝ้าระวังและค้นหาผู้ติดเชื้อโรคโควิด–19 ในเชิงรุกทุกพื้นที่ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
โดย SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit คันนี้ ได้ทำการส่งมอบให้แก่ หมอแล็บแพนด้า “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการออกไปปฏิบัติงานตามสถานที่ต่างๆ และยังอำนวยความสะดวกให้ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่สำหรับเก็บสิ่งส่งตรวจและเพื่อค้นหาบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด–19 เชิงรุกได้ต่อไป
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดทำรถ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unitเป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการ SUZUKI Cause We Care เพื่อช่วยเหลือสังคมผ่าน “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” นักเทคนิคการแพทย์ที่ครองใจประชาชนในสังคมออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊คชื่อ “หมอแล็บแพนด้า” ซึ่งซูซูกิเล็งเห็นว่าหมอแล็บแพนด้ามีวิธีการสื่อสารให้ความรู้เกี่ยวกับทางการแพทย์ให้ประชาชนเข้าใจและรับรู้ได้อย่างง่ายดายสอดคล้องกับความตั้งใจของซูซูกิในการจัดทำโครงการ “SUZUKI Cause We Care –เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” ซึ่งนอกเหนือจากความต้องการที่จะสื่อสารกับลูกค้าทั้งด้านสินค้าและงานบริการได้อย่างทันท่วงทีและมอบบริการที่ดีเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ในยุคที่การสื่อสารและการรับรู้ข้อมูลข่าวสารสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วและไร้ขีดจำกัด ยังเป็นแนวคิดภายใต้หลักการสำคัญว่าธุรกิจจะสามารถเติบโตได้หากมีการช่วยเหลือเกื้อกูลชุมชนและสังคมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาและความตั้งใจในการเข้าไปสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงที่สังคมกำลังเผชิญปัญหาจากไวรัสโควิด–19 อยู่ในขณะนี้รวมถึงส่งมอบความประสบการณ์ที่ดีในสินค้าและบริการของซูซูกิสู่ลูกค้าต่อไป โดยโครงการ SUZUKI Cause We Care นี้ซูซูกิกำหนดให้ผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศดำเนินการเป็นแนวทางการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ดังนั้น จะเห็นได้ถึงความตั้งใจจริงของเราว่า ซูซูกิ ไม่ได้มุ่งหวังแค่จะสร้างยอดขายให้เติบโตเพียงเท่านั้น แต่เราต้องการที่จะสร้างให้ซูซูกิเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อถือและไว้วางใจเดินคู่เคียงข้างคนไทยต่อไปในอนาคต