นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์เทคนิค จำกัด หรือ อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานตลอดกว่า 4 ปีครึ่ง หลังจากได้รับการแต่งตั้ง จาก Audi AG ให้เป็นผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายยนตรกรรมอาวดี้อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งได้รับผลตอบรับและความเชื่อมั่นของลูกค้า ร่วมถึงการสนับสนุนของบริษัทแม่อย่าง Audi AG เป็นอย่างดี การทำการตลาดเชิงรุกที่ให้ความสำคัญต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง มีการสร้างเซอร์ไพรส์ให้ลูกค้าได้ตื่นเต้น สนุกสนานไปพร้อมกับแบรนด์อาวดี้ตลอดเวลา ส่งผลทำให้อาวดี้ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จมียอดขายและยอดผู้ใช้บริการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายสะสมตั้งแต่ เดือนมีนาคม 2560 ถึง เดือนกันยายน2564 มากถึง 4,500 คัน รวมเป็นมูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของบริการหลังการขายมีปริมาณลูกค้านำรถเข้ามาเซอร์วิสกว่า 41,500 งานซ่อม เติบโตมากกว่า 10 เท่า ทั้งนี้รวมถึงลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ของอาวดี้ นี่เป็นบทพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อ อาวดี้ประเทศไทย เป็นอย่างดี
สำหรับผลการดำเนินงานของปี 2564 ที่แม้จะเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่อง แต่ส่วนงานขาย งานบริการ และงานโอเปอร์เรชั่นต่างๆ ของ อาวดี้ ประเทศไทย ก็ไม่หยุดนิ่ง โดยมีการปรับแผนกลยุทธ์การทำงานและการตลาดให้เข้ากับชีวิตวิถีใหม่อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจสูงสุดให้ผู้ใช้บริการ ส่งผลทำให้ปีนี้ อาวดี้ประเทศไทย สร้างสถิติการเติบโตสวนกระแสอีกครั้ง คาดว่าสิ้นปีนี้ยอดจัดจำหน่ายรวมทั้งงานขาย งานบริการหลังการขาย และอะไหล่ จะเติบโตขึ้น 15-20% เมื่อเทียบกับปี 2563
อาวดี้ ประเทศไทย “ขอบคุณลูกค้า สื่อมวลชน ดีลเลอร์ และพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ให้การต้อนรับ เชื่อมั่นในแบรนด์และยนตรกรรมอาวดี้ ทำให้ปี 2564 เป็นอีกปีที่อาจเรียกได้ว่า เป็นปีที่ดีที่สุดของชาว อาวดี้ ประเทศไทย เพราะเมื่อรวมผลการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบันที่สามารถสร้างสถิติยอดจำหน่ายรวมทะลุ 17,000 ล้านบาท ในเวลาเพียง 4 ปีครึ่ง ก็นับเป็นก้าวสำคัญที่ผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้า และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้อาวดี้เป็นแบรนด์ยนตรกรรมหรูที่เข้าไปนั่งในใจลูกค้ามากที่สุด”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันความสำเร็จ เป็นผลมาจากนโยบาย Customer Centric การขยายโมเดลไลน์อัพที่ทำได้อย่างรวดเร็ว กลยุทธ์เขย่าพอร์ตที่จับต้องได้จริง การยกระดับคุณภาพและมาตรฐานงานบริการหลังการขาย ความพร้อมของอะไหล่ ความเยี่ยมยอดของคุณภาพยนตรกรรมอาวดี้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัจฉริยะ quattro ที่สร้างความมั่นใจให้ทุกการขับขี่ สามารถสัมผัสถึงความแตกต่างทันทีที่ได้ทดลองขับ นอกจากนี้ยังเป็นผลที่มาจากความตั้งใจจัดมาเต็มของ Super Car ในราคาที่จับต้องได้ อย่างในตระกูล RSที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม สามารถทำยอดขายได้ 200 คันภายใน 1 ปีและการนำยนตรกรรมพลังงานไฟ้ฟ้า Audi e-tron รุ่นใหม่ เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว นับได้ว่า อาวดี้ ประเทศไทย เป็นผู้นำยนตรกรรมหรูพลังงานไฟฟ้าที่มีรถ EV ให้ลูกค้าได้เลือกมากถึง 5 รุ่น ซึ่งมีการส่งมอบAudi e-tron ให้ลูกค้าไปแล้วมากกว่า 100 คัน
ในส่วนของนโยบาย Customer Centric อาวดี้ได้ประกาศตั้งแต่วันแรก การให้ความสำคัญและเน้นสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้พิสูจน์ด้วยการกระทำทำให้คะแนนความพึงพอใจในส่วนการบริการหลังการขายล่าสุดสูงถึง 97% ควบคู่ไปกับการคัดสรรยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ มาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ตลอดทั้งปีมีการจัดแคมเปญที่ให้ความคุ้มค่าและหน้าดึงดูดแบบหลากหลายอย่างต่อเนื่อง
ด้านการขยายโมเดลไลน์อัพ หากย้อนไปดูในปีแรกที่เริ่มเปิดดำเนินการ อาวดี้นำรถรุ่นใหม่มาให้เลือกหลากหลายรุ่น การขยายโมเดลไลน์อัพด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้ง Performance Car และยนตรกรรมหรูอีกหลากหลาย ซึ่งเติบโตจากปีแรกถึง 300% โดยปัจจุบันอาวดี้มีรถให้เลือกสรรมากถึง 36 รุ่นย่อย ตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ในเซกเมนต์ที่แตกต่างทั้งสมรรถนะ ดีไซน์ ออฟชั่น ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง ที่ตอบโจทย์ความคุ้มค่า สามารถทำยอดขายได้ดีทุกรุ่น โดยเฉพาะ Audi Q7, A5,Q3, A4 Avant และ TT ไอคอนตลอดกาล
และที่ช่วยเสริมแกร่งให้กับยนตรกรรมแบรนด์อาวดี้ ช่วยผลักดันยอดขายของอาวดี้ให้สูงขึ้นทะลุเป้า กับการมาของยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า Audi e-tronซึ่งอาวดี้เป็นผู้นำตลาด ปัจจุบันมีให้เลือกถึง 5 รุ่นย่อย และ Hi Performance Cars ตระกูล RS ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่รักความเร็ว ในราคาจับต้องได้ โดยมีให้เลือกถึง 6 รุ่น โดยเฉพาะ Audi RS 4 Avant และ Audi RS 6 Avant ที่ลูกค้าเห็นชัดเจนว่าเมื่อเทียบราคากับแรงม้าแล้วถือว่าทั้งสองรุ่นคือSuper Cars ในราคาจับต้องได้จริงๆ
นอกจากนี้กลยุทธ์ Product Offensive มีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และทำให้ลูกค้าเห็นถึงความแตกต่าง ความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีความปลอดภัย และดีไซน์ อันเป็นจุดเด่นของอาวดี้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัจฉริยะ quattro ที่ทำให้พรีเมียมเอสยูวี สุดหรู เหนือระดับ อย่าง Audi Q7 และ Audi Q5 มียอดขายดีต่อเนื่อง
อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ อาวดี้ ประเทศไทย เติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นผลมาจากกลยุทธ์เขย่าพอร์ต เพื่อให้ Audi เป็นรถที่ Attractive & Affordableเปลี่ยนภาพจำของลูกค้า จาก Audi เป็นรถหรู นำเข้า ราคาแพง จับต้องยาก เป็น Audi รถหรู นำเข้า คุณภาพดี สวย แต่ซื้อไหว ซึ่งอาวดี้ได้มีการขยับปรับพอร์ตทันที นำเข้ารถที่มีราคาจับต้องได้เข้ามาจำหน่ายเพิ่ม ลูกค้ามีตัวเลือกที่หลากหลาย และสามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างลงตัว
“กลยุทธ์นี้สร้างความสำเร็จให้อาวดี้อย่างมาก โดยปัจจุบันรถในกลุ่มที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เช่น Audi Q3 และ Audi A5 มียอดขายรวมถึง 50% ของยอดจำหน่ายทั้งหมด ขณะที่รถในกลุ่มที่มีราคาเกิน 5 ล้านบาท ขึ้นไป รวมรถในตระกูล RS ก็มียอดขายดีต่อเนื่อง โดยในปีนี้มียอดจองรถที่มีราคาเกิน 5 ล้านบาท ในสัดส่วนที่มากถึง 34%”
ปัจจัยที่สร้างความแข็งแกร่งสุดๆ ให้กับแบรนด์อาวดี้และขยายฐานลูกค้าใหม่ได้อย่างไม่ยากนัก คือ กลยุทธ์ After Sale นำ Sale ซึ่งอาวดี้ให้ความสำคัญตั้งแต่วันแรก โดยมีการทุ่มงบประมาณไปแล้วรวมกว่า 300 ล้านบาท ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน คลังอะไหล่ ศูนย์ตรวจสอบรถยนต์ก่อนส่งมอบ ระบบการจัดการ เทคโนโลยี เครื่องมือ การบริหารจัดการ และการฝึกอบรมเสริมสร้างทักษะ ทีมช่าง และบุคลากร เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการหลังการขายให้ได้มาตรฐานสากล รองรับและสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ไปพร้อมๆ กัน รวมถึงทีมช่างฝีมือไว้รองรับการบริการ เช่น การซ่อมบำรุงยนตรกรรมไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีการขยายเครือข่ายโชว์รูมศูนย์บริการออกไปในภูมิภาคต่างๆ เพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ยอดขายรถอาวดี้ในจังหวัดอุดร ภูเก็ต พัทยา และฝั่งธน เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย ยังเปิดเผยถึงแผน ทิศทาง และแนวโน้มการเติบโตในปีหน้ว่า ยังคงมีการทำงานร่วมกับ Audi AG อย่างใกล้ชิด เพื่อนำยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ในปีหน้า อีกประมาณ 10 รุ่น เบื้องต้นที่ยืนยันแล้ว คือมีรถในตระกูล RS เข้ามาอีก 2–3 รุ่น และจะมีการนำยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง Audi A6 e-tron เข้ามาเปิดตัวเพิ่มอีกแน่นอน ตามนโยบายของบริษัทแม่ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า Future is Electric
สำหรับโค้งสุดท้ายของปีนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนมาอย่างดี อาวดี้ ประเทศไทย เดินหน้าเสนอ Motor Expo Campaign ก่อนใคร ด้วยแคมเปญพิเศษสุดท้ายปลายปี ก่อนปรับราคาขึ้น โดยลูกค้าสามารถเลือกระหว่างประกันภัยชั้น 1 ฟรี สูงสุด 3 ปี หรือ ดอกเบี้ย 0%
Audi เป็นรถยนต์นำเข้าทุกรุ่นจากประเทศเยอรมัน ลูกค้าที่ออกรถใหม่จะได้รับการดูแลจาก Audi Protection การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี ลูกค้าอาวดี้สามารถมั่นใจกับงานบริการหลังการขาย ซึ่งมีมาตรฐานคุณภาพเดียวกัน ทุกสาขา โดยเปิดบริการตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. วันจันทร์ถึงวันเสาร์ หรือโทรนัดหมายได้ที่
· Audi Centre Thailand 02-765-8888
· Audi New Petchburi 02-023-4888
· Audi Pattaya 038-197-888
· Audi Phuket 076-646-666
· Audi Service Chiang Mai 052-081-188
· Audi Service Ratchapruek 02–034–5888
· Audi Udornthani 093-161-5588