ทีมโรงงานปอร์เช่ มีการเตรียมตัวอย่างดีเยี่ยม พร้อมรับมือกับการแข่งขันสนามที่ 4 ในรายการ FIA World Endurance Championship WEC ที่Monza นับเป็นครั้งที่ 2 ของสนาม high-speed ระดับตำนานของประเทศอิตาลี ที่รับบทบาทเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน WEC สำหรับสงครามความเร็ว 6 ชั่วโมงที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งทีมงานจากบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ต ซึ่งมีฐานบัญชาการตั้งอยู่ในสตุ๊ทการ์ท ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้อย่างชัดเจนว่าหลังจากที่เอาชนะมาได้จากการแข่งขัน Le Mans และคว้าแชมป์เมื่อปีที่แล้วใน Monza ทีมแข่งปอร์เช่ต้องการยึดตำแหน่งผู้นำบนตารางคะแนนสะสมต่อไป ในการแข่งขันวันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม2022 นี้ โดยทีมแข่ง Porsche GT จะส่งรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR คันเก่ง พกพาพละกำลัง 515 แรงม้า ลงสนามในรุ่น GTE-Pro ส่วนรุ่น GTE-Am ทีมแข่งอิสระ Project 1, Dempsey-Proton Racing และ GR Racing จัดรถแข่งปอร์เช่ 911 ลงสนามอีก 5 คัน
Alexander Stehlig ผู้อำนวยการแผนก Factory Motorsport FIA WEC กล่าวว่า ฤดูกาลที่แล้วใน Monza เราประสบความสำเร็จจากชัยชนะที่คาดไม่ถึงบนสนามสุดหิน เราต้องการผลงานแบบนั้นอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งในเวลานี้เรากำลังเป็นผู้นำบนตารางคะแนนสะสม world championship และเราต้องการรักษาตำแหน่งนี้ต่อไป อีกทั้งยังมุ่งมั่นกับการคว้าแชมป์ทั้งประเภทผู้ผลิต และประเภทนักแข่ง จากที่เราสามารถบรรลุเป้าหมายแรกในการเอาชนะที่ Le Mans ด้วยรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR ได้เป็นที่เรียบร้อย ปัจจุบันเราจะต้องมองไปถึงการนำถ้วยแชมป์โลกกลับไปที่บ้านของเราเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลแข่งขัน”
เกี่ยวกับการแข่งขัน
สนาม Autodromo Nazionale di Monza คือตักศิลาแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สนามแห่งนี้ถูกใช้งานครั้งแรกในการแข่งขันรายการRoyal Park ตั้งแต่ช่วงต้นปี 1922 โดยในขณะนั้นมีลักษณะเป็น oval circuit ซึ่งบางส่วนยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันกลายเป็นสนามที่มีระยะทาง 5.793กิโลเมตร และมีทางตรงยาวที่เปิดโอกาสให้สามารถใช้ความเร็วสูง นับตั้งแต่ปี1950 สนามแข่งรถที่มีทำเลไม่ห่างจากเมืองมิลาน ซึ่งเป็นหัวเมืองหลักของประเทศอิตาลีตอนเหนือแห่งนี้ถูกใช้เป็นสังเวียนการแข่งขันรายการ Formula 1 Grands Prix รวม 71 ครั้ง ช่วงก่อนปี 2017 FIA WEC แต่งตั้งให้เป็นสถานที่ทดสอบอย่างเป็นทางการ หรือที่เรียกว่า prologue โดย Monza ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Temple of Speed” มหาวิหารแห่งความเร็ว และในฤดูกาล 2021 การแข่งขันระยะยาว 6 ชั่วโมงได้รับการจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR สามารถเอาชนะในการต่อสู้ที่ขับเคี่ยวกันอย่างสูสีของรุ่น GTE-Pro มาได้ เมื่อเดินทางมาถึงครึ่งฤดูกาลของ FIA World Endurance Championship ปอร์เช่ยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำในประเภทผู้ผลิต และครองอันดับ 1 และอันดับ 2 ในประเภทนักแข่ง
นักแข่งของทีม Porsche GT
สองนักขับเจ้าของชัยชนะใน Le Mans Richard Lietz จากประเทศออสเตรีย และหนุ่มเลือดอิตาเลียน Gianmaria Bruni ผนึกกำลังขับรถแข่งปอร์เช่ 911 RSRหมายเลข 91 โดยทั้งคู่มีคะแนนนำในประเภทนักแข่ง ในส่วนของเพื่อนร่วมทีมอย่าง Kévin Estre จากประเทศฝรั่งเศส และ Michael Christensen จากประเทศเดนมาร์ก ตามมาเป็นอันดับ 2 ในตารางคะแนนสะสมโดยทั้ง 2 คนได้ประจำการในรถแข่งหมายเลข 92 และสามารถเอาชนะมาได้ในสนามเปิดฤดูกาลที่ Sebring ประเทศ สหรัฐอเมริกา
ทีมแข่งอิสระ
Dempsey-Proton Racing ส่งรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR ลงสนาม 2 คัน ถือเป็นครั้งที่ 3 ของรายการ WEC ในฤดูกาลนี้ โดยเจ้าของทีม Christian Ried จากประเทศเยอรมนี ใช้รถแข่งหมายเลข 77 ร่วมกับ 2 นักขับจากอังกฤษ Harry Tincknell และSebastian Priaulx ในส่วนของรถแข่งหมายเลข 88 รับหน้าที่โดยนักแข่งชาวอเมริกัน Fred Poordad และ Patrick Lindsey เสริมด้วยนักแข่งเบลเยี่ยม Jan Heylen รถแข่งหมายเลข 46 ลงสนามภายใต้สังกัดทีมแข่ง Project 1 ขับขี่โดยหนุ่มสวิสเซอร์แลนด์ Nicolas Leutwiler ร่วมด้วย Mikkel Pedersen จากเดนมาร์ก และนักแข่งอิตาลีที่คุ้นหน้าคุ้นตา Matteo Cairoli ทางด้าน Ben Barnicoat และ Oliver Millroy คู่หูจากสหราชอาณาจักร ผนึกกำลังลงแข่งในรถหมายเลข 56 โดยการสนับสนุนจากเจ้าของทีมแข่งอิสระชาวเยอรมนี และนักธุรกิจชาวอเมริกัน Brendan Iribe ทีม GR Racing ส่งรถแข่งหมายเลข 86 กุมบังเหียนโดยสองนักแข่งชาวอังกฤษ Michael Wainwright และ Ben Barker รวมทั้ง Riccardo Pera จากอิตาลี
ตารางการแข่งขัน (เวลามาตรฐานยุโรปกลาง CEST)
วันศุกร์ 8 กรกฎาคม 2022
3:30 pm – 5:00 pm: Free practice 1
วันเสาร์ 9 กรกฎาคม 2022
9:00 am – 10:30 am: Free practice 2
1:30 pm – 2:30 pm: Free practice 3
5:30 pm – 5:40 pm: รอบจัดอันดับรุ่น GTE
วันอาทิตย์ 10 กรกฎาคม 2022
12.00 am – 6:00 pm: การแข่งขัน
นานาทัศนะจากนักแข่งก่อนการแข่งขัน
Richard Lietz (รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 91): “Monza เป็นสนามแข่งที่ผมเชื่อว่าบรรดาคู่แข่งของเราจะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย ปีที่แล้วเรามีโอกาสที่ดี ตอนนี้ผมคิดว่ารถคันอื่นอาจจะพัฒนาขึ้นจากความเร็วสูงสุดที่เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เรายังคงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อผลลัพธ์ที่ดี เช่นเดียวกับทุกสุดสัปดาห์ที่มีการแข่งขัน เราทำงานเพื่อค้นหาการปรับแต่งตัวรถที่เหมาะสมในระหว่างวิ่งทดสอบ ไม่แน่ว่าเราอาจจะสามารถผลักดันตัวเองขึ้นไปอยู่ในหัวแถวด้วยกลยุทธ์ที่แปลกใหม่ หรือเปิดเกมรุกแบบเต็มพิกัด”
Gianmaria Bruni (รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 91): “Monza คือสนามแข่งที่ทำความเร็วได้สูงสุด นักแข่งทุกคนต่างรอคอยที่จะได้ลงแข่ง และนี่คือครั้งสุดท้ายของการลงสนามในรุ่น GTE-Pro เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก แต่สิ่งนี้กลายเป็นแรงกระตุ้นพิเศษที่ทำให้เรานำพาชัยชนะกลับบ้านพร้อมกับรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR ซึ่งบรรดาแฟน ๆ ชาว อิตาเลียนล้วนหลงรักกีฬามอเตอร์สปอร์ต ผมมั่นใจว่าจะมีเหล่า Tifosi มากมายนับไม่ถ้วนมาร่วมให้กำลังใจในสนามช่วงสุดสัปดาห์อย่างแน่นอน องค์ประกอบทั้งหมดจะลงตัว บนสนามแข่งที่ไม่ธรรมดาแห่งนี้ในช่วงสุดสัปดาห์อันยอดเยี่ยม”
Kévin Estre (รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 92): “การแข่งขันใน Monza เป็นhighlight มาโดยตลอด เราพบกับความยากลำบากที่ Le Mans ด้วยรถแข่งหมายเลข 92 เราจึงคาดหวังถึงการแก้ไขข้อผิดพลาด ฤดูกาลที่แล้วเราต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง เราต้องการสมรรถนะที่ดีเยี่ยมแบบที่เคยทำได้ในสุดสัปดาห์ที่ ถ้าเราสามารถจัดการได้ บางทีเราอาจจะแซงขึ้นหน้าเพื่อนร่วมทีมขึ้นไปอยู่บนหัวตารางคะแนนสะสม และช่วยให้ปอร์เช่ยังคงรั้งอันดับ 1 ในประเภทผู้ผลิตต่อไป นั่นคือเป้าหมายหลักของเรา”
Michael Christensen (รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 92): “หลังจากความผิดหวังที่เราพบเจอใน Le Mans มันเป็นเรื่องที่ดีกับการได้พักเบรกระยะสั้น ๆ ก่อนจะลงแข่งสนามต่อไปของฤดูกาล เราต้องการเป็นแชมป์โลก เพื่อสิ่งนี้ เราต้องเก็บคะแนนสะสมให้ได้มากที่สุดเช่นเดียวกับปีที่แล้วใน Monza ผมเฝ้ารอคอยการแข่งขันครั้งนี้มานาน เนื่องจากฤดูกาลที่แล้วผมไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของทีม ดังนั้น นี่คือการลงแข่งรายการ WEC ใน Monza ครั้งแรก ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้พบปะแฟน ๆ กีฬาพันธ์แท้ชาวอิตาลีทุกคน”