ฟอร์ด ประเทศไทย ร่วมกับ ‘ฟีลลิค อินโนเวชัน มอเตอร์สปอร์ต’ ทีมแข่งระดับตำนาน ส่งรถฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ เข้าร่วมการแข่งขันเอเชีย ครอส คันทรี แรลลี 2023 หลังประสบความสำเร็จจากการแข่งขันรถกระบะในสนามออฟโรดระดับโลก ทั้งจากงาน 2022SCORE-International Baja 1000 และคว้าตำแหน่งแชมป์คลาสโชว์รูมจากการแข่งขัน 2023 Finke Desert Race ในประเทศออสเตรเลียเมื่อไม่นานมานี้ โดยฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ที่แฟนๆ ชาวไทยคุ้นเคยกับสโลแกน ‘ดุดันไม่เกรงใจใคร’ จะพร้อมลุยในเส้นทางการแข่งขันสุดท้าทายกว่า 2,000 กิโลเมตร ซึ่งเริ่มที่เมืองพัทยา ประเทศไทย ไปจนถึงเมืองปากเซ ประเทศลาว ระหว่างวันที่ 13 – 19สิงหาคมนี้
ทีม ‘ฟีลลิค อินโนเวชัน มอเตอร์สปอร์ต’ นำโดยไมเคิล ฟรีแมน ได้สั่งสมประสบการณ์การแข่งขันทางเรียบมายาวนานและคว้ารางวัลชนะเลิศประเภททีมมาแล้วกว่า 10 ครั้งตั้งแต่ปี 2012 สำหรับในปี 2023 นี้ ฟอร์ด ประเทศไทยสนับสนุนทีมแข่งด้วยการส่งรถกระบะสมรรถนะสูง ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ พร้อมด้วยอะไหล่เสริมสำหรับการแข่งขันให้กับทีมพัฒนารถ นับเป็นครั้งแรกที่รถฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้ลงสนามการแข่งขัน เอเชีย ครอส คันทรี ในประเทศไทย โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการปรับแต่งรถของทีม ผสานกับสมรรถนะเหนือชั้นสำหรับคอออฟโรดตัวจริง
ทั้งนี้ ไมเคิล ซึ่งเป็นผู้อำนวยการทีมมีประสบการณ์การแข่งขันมามากกว่า 30 ปี และเป็นนักแข่งที่เคยได้รับชัยชนะมาหลายครั้ง รวมถึงครั้งล่าสุดในปี 2018 ด้วยการขับรถฟอร์ด มัสแตง หมายเลข 55 แข่งขันในรุ่น TA2 และในครั้งนี้ ไมเคิลจะนำฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ หมายเลข 124 ลงแข่งในสนามเอเชีย ครอส คันทรี แรลลี 2023 พร้อมด้วยไชยยา ชมมาลี ผู้นำทางมือฉมังที่คร่ำหวอดในวงการแข่งรถแรลลีมากว่า 40 ปี
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้ลงแข่งในสนามนี้ เพราะนี่จะเป็นการแข่งรถแบบครอสคันทรีครั้งแรกของผม การเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้เป็นความฝันของผมมานานแล้ว และในปีนี้ก็นับเป็นโอกาสเหมาะในการร่วมมือกับผู้สนับสนุนอย่างฟอร์ด ประเทศไทย จากการฝึกซ้อมที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าการแข่งขันรายการนี้มีความท้าทายทางจิตใจยิ่งกว่าการแข่งขันบนทางเรียบมาก เนื่องจากต้องอาศัยประสาทสัมผัสทั้งหมดในการเอาชนะความท้าทายตลอดการแข่งขัน เป้าหมายของเราในครั้งนี้คือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด และเข้าเส้นชัยอย่างสมบูรณ์แบบโดยไร้ข้อผิดพลาด” ไมเคิล ฟรีแมนกล่าว
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ หมายเลข 124 ลงแข่งในคลาส ทีทูเอ หรือ โปรดักชัน เอเชีย ซึ่งเป็นประเภทสำหรับรถที่ผลิตจากโรงงานในเอเชีย ใช้เครื่องยนต์และชิ้นส่วนจากโรงงาน มีการปรับแต่งเพิ่มเติมตามข้อกำหนดของการแข่งขันที่ให้มีอุปกรณ์ความปลอดภัยบนเบาะที่นั่งคนขับ และโรลบาร์ ทีมแข่งได้เปลี่ยนล้อ และยางBF Goodrich ใหม่ให้เหมาะกับสภาพพื้นที่ออฟโรด ติดบังโคลน และแผ่นโลหะกันกระแทกใต้ท้องรถ ไปจนถึงการบรรทุกยางรถยนต์สำรอง และกว้านสำหรับฉุดลากไว้ในกระบะท้าย เสริมความดุดันของภายนอกสีส้มโค้ด ออเร้นจ์ ด้วยสติกเกอร์ที่สะท้อนดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ นอกจากนี้ ทีมแข่งยังใช้โช้คอัพเดิมของ FOXTM ที่ได้รับการยกระดับให้พร้อมสำหรับการแข่ง และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรเดิม อวดศักยภาพของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ในฐานะรถกระบะที่ผลิตมาเพื่อการลงสนามแข่งออฟโรด
“ฟอร์ดรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับทีมแข่ง ฟีลลิค อินโนเวชัน มอเตอร์สปอร์ต ในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะยกระดับแบรนด์ไปอีกขั้นในวงการมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งการแข่งขันที่มีความท้าทายมากขึ้นกว่าเดิม จะเป็นเครื่องพิสูจน์สมรรถนะของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ และความสามารถของทีม เพื่อให้แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตได้สัมผัสถึง‘ความดุดัน’ อย่างแท้จริง” นายรัฐการ จูตะเสน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
การแข่งขันเอเชีย ครอส คันทรี แรลลี นับเป็นการแข่งขันแรลลีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จัดโดยสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (Fédération Internationale de l’Automobile – FIA) ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.) และสมาคมกีฬารถจักรยานยนต์ 360 องศา ด้วยความมุ่งมั่นให้เป็นสุดยอดศึกทดสอบสมรรถนะรถยนต์ออฟโรด ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเผชิญกับการแข่งขันทั้งบนทางเรียบและพื้นที่สมบุกสมบัน ไม่ว่าจะเป็นเนินสูงชัน แอ่งน้ำ พื้นทราย เรือกสวนไร่นา ไปจนถึงทางลาดยาง และยังต้องวัดใจกับสภาพอากาศอันแปรปรวนในแต่ละพื้นที่ขอทวีปเอเชีย ซึ่งจะพิสูจน์ทักษะการขับขี่ของนักแข่ง การปรับแต่งเครื่องยนต์ของวิศวกร ไปจนถึงสมรรถนะของรถแข่ง