บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าพัฒนาคุณภาพสินค้าเพื่อผู้บริโภคชาวไทย โดยการแนะนำรถยนต์ SUZUKI XL7รุ่นปรับปรุงใหม่ เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ตอกย้ำความนิยมในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ MPV ชูความโดดเด่นด้านการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย มอบความสนุก ความท้าทาย และความคุ้มค่าที่สุดในตลาดตามแบบฉบับของ Multi-Dynamic Crossover
มร.มิโนรุ อามาโนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับการแนะนำ SUZUKI XL7, Multi-Dynamic Crossover ครั้งนี้ เป็นการพัฒนาปรับปรุงให้มีความครบครันเหมาะสมกับความเป็นรถ MPV ที่พร้อมตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการเป็นรถที่ให้มากกว่าความคุ้มค่า กับราคาที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงและเป็นเจ้าของได้ง่าย โดยมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ดีไซน์ภายนอกและภายในของตัวรถออกแบบมาอย่างพิถีพิถันทุกรายละเอียดที่ตอบรับและเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่ง SUZUKI XL7 นับเป็นรถรุ่นที่ช่วยผลักดันยอดขายของซูซูกิให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่การเปิดตัวกลางปี 2563 ยอดขายรวมอยู่ที่ 7,042 คัน คาดว่า SUZUKI XL7 จะมีส่วนช่วยในการผลักดันให้ยอดขายของซูซูกิในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า SUZUKI XL7 ยังคงการออกแบบด้วยดีไซน์ภายนอกที่ผสานแนวทางสปอร์ตเข้มและดุดันด้วยกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตสีดำผสมโครเมียม สอดรับกับไฟหน้า LED สามารถปรับระดับองศาของไฟต่ำได้ มาพร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกหน้า ตกแต่งใต้กันชนด้วยวัสดุสีเงินรอบคัน มาพร้อมไฟท้าย LED และไฟเบรกแนวตั้ง เติมความเข้มด้วยซุ้มล้อสีดำ พร้อมล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทนขนาด 16นิ้ว รวมถึงราวหลังคาเพื่ออรรถประโยชน์ในการบรรทุกสัมภาระมากยิ่งขึ้น
ดีไซน์ภายในบริเวณคอนโซลด้านหน้าสไตล์สปอร์ต ตกแต่งวัสดุด้วยลาย Carbon Fiber พร้อมคิ้วโครเมียม อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่พร้อมรองรับการใช้งานอย่างครบครัน มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลแจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ เช่น Driving G-Force อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราแรงบิด กำลังของเครื่องยนต์ และข้อมูลอื่นๆ
โดยในครั้งนี้ได้เพิ่มอุปกรณ์ แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) รองรับการชาร์จโทรศัพท์มือถือได้หลากหลาย พร้อมด้วยกล้องบันทึกภาพด้านหน้ารถ(Digital VDO Recorder) ติดตั้งมาจากโรงงานช่วยบันทึกเหตุการณ์ในการขับขี่ ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกสภาวะถนน
ทั้งยังคงไว้ด้วยอุปกรณ์สำคัญที่เป็นจุดเด่นของ SUZUKI XL7 คือ ความสามารถในการเชื่อมต่อกับความบันเทิงในทุกเส้นทางด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว มาพร้อมระบบปรับแต่งเสียงและประมวลผลในแบบดิจิทัล (Digital Sound Processor) เพิ่มมิติและความสุนทรีย์ให้กับเสียงเพลง พร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อ Bluetooth การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay, Android Auto รวมไปถึงช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ที่บริเวณคอนโซลหน้า อีกทั้งช่องจ่ายไฟสำรอง 12V มากถึง 3 ตำแหน่ง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อย่างลงตัว
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย ด้วยที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวที่สองปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40 สามารถเลื่อนสไลด์ได้ 240 มิลลิเมตร เสริมความสปอร์ตด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ทรง D-Shape พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและการสั่งการสมาร์ตโฟน ทันสมัยด้วยระบบ Keyless Push Start และระบบ Keyless Entry ประตูเปิด-ปิดได้ โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมต รวมถึงกระจกมองข้างที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ให้ผู้ขับขี่สัมผัสความสะดวกสบายในการใช้งาน
SUZUKI XL7 ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ K15B ขนาด 1.5 ลิตร มอบกำลังสูงสุดถึง 105แรงม้า/6,000 รอบต่อนาที แรงบิดที่ 138 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ปรับตั้งประสิทธิภาพเครื่องยนต์และอัตราทดเกียร์ให้เหมาะกับการขับขี่อย่างลงตัว ผสานกับแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซูซูกิ ซึ่งช่วยเสริมสมรรถนะในการขับเคลื่อนเป็นไปอย่างคล่องตัว สนุกสนาน ปลอดภัย และประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
ระบบช่วงล่างได้รับการออกแบบและปรับแต่งเพื่อตอบสนองการขับขี่ได้ในทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยความสูงใต้ท้องรถ 200 มม. สร้างความนุ่มนวลและมั่นใจในทุกสภาวะถนนด้วยเหล็กกันโคลงด้านหน้าขนาดใหญ่ ลดอาการโคลงของตัวรถและเพิ่มการยึดเกาะถนน
ด้านความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล เสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP และการปรับแต่ง module ในพวงมาลัยที่เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้เข้าโค้งได้แม่นยำ
รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control), จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX และ Top tether, กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์ที่กะระยะในขณะถอยหลังได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการป้องกันการโจรกรรมด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
สำหรับ SUZUKI XL7 Multi-Dynamic Crossover มีราคาและสีรถให้เลือกดังนี้
สีรถ |
ราคา |
สีส้ม สีเทาเข้ม สีดำ |
814,000 บาท |
สีขาว |
819,000 บาท |
สีทูโทน–ตัวรถสีส้มตัดกับหลังคาสีดำ |
824,000 บาท |
สีทูโทน–ตัวรถสีขาวตัดกับหลังคาสีดำ |
829,000 บาท |
พร้อมกับแคมเปญรับข้อเสนอพิเศษส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 15,000 บาทฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 3 ปี ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ
นายวัลลภ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ซูซูกิยังคงยึดมั่นในปรัชญาของซูซูกิคือผลิตสินค้าที่มีคุณค่าเหมือนว่าเราคือผู้ใช้ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายเหมาะสมกับลูกค้าชาวไทย ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพงานบริการของโชว์รูมผู้จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิครอบคลุมทั่วประเทศ สอดคล้องกับความตั้งใจของซูซูกิในการจัดทำโครงการ “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” ซึ่งนอกเหนือจากความต้องการที่จะสื่อสารกับลูกค้าทั้งด้านสินค้าและงานบริการได้อย่างทันท่วงทีและมอบบริการที่ดีเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกท่านแล้ว ซูซูกิยังมีความตั้งใจจริง ที่ต้องการที่จะสร้างให้ซูซูกิเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อถือและไว้วางใจเดินคู่เคียงข้างคนไทยต่อไปในอนาคต
ช่องทางการติดต่อ
www.suzuki.co.th
www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
SUZUKI Cause We Care: 1800-600-900