ปอร์เช่เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับฤดูกาลแข่งขันกีฬาความเร็วที่กำลังจะมาถึง ด้วยรถแข่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดถึง 3 รุ่น รวมทั้งรถแข่งพลังงานไฟฟ้าที่จะลงแข่งในรายการ one-make cup ประกอบด้วยรถแข่งปอร์เช่963 hybrid prototype รถแข่งปอร์เช่ 99X Electric ที่จะลงชิงชัยในรายการFormula E และรถแข่งปอร์เช่ GT4 e-Performance รุ่นทดสอบโดยใช้แนวคิดระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ วัตถุประสงค์สำคัญอีกประการในฤดูกาล 2023 คือการยกระดับกิจกรรมการแข่งขันของทีมแข่งอิสระ ภายใต้การสนับสนุนจากทางโรงงานด้วยรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 R และทีมงานต่าง ๆ ซึ่งอยู่ในส่วนงาน esports“มอเตอร์สปอร์ต คือสิ่งที่สำคัญสูงสุดสำหรับปอร์เช่มาโดยตลอด และถือเป็นส่วนหนึ่งใน DNA ของแบรนด์ เราประยุกต์ใช้สิ่งเหล่านี้ในการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำยุค รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันล้ำเลิศของรถสปอร์ตที่เรามี เรายังคงต้องการรักษาแนวทางการทำงานนี้เอาไว้อย่างต่อเนื่อง” Michael Steiner สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้กำกับดูแลส่วนงานวิจัย และพัฒนา กล่าวแสดงความคิดเห็น
Thomas Laudenbach รองประธานกรรมการส่วนงาน Porsche Motorsport กล่าวย้ำว่า “ความยั่งยืน และเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตอย่างปอร์เช่ กิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตต่าง ๆ ของเราล้วนสะท้อนถึงภาพดังกล่าวอย่างชัดเจน ตัวอย่างที่ดีคือรถแข่งปอร์เช่ GT4 e-Performance คันใหม่ รถต้นแบบคันนี้เต็มไปด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยมากมาย ซึ่งแสดงถึงวิสัยทัศน์ด้านยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า 100% ในรถสปอร์ตที่ลูกค้ามีโอกาสได้สัมผัส เราเข้าร่วมการแข่งขันในรายการ Formula E ด้วยรถแข่งปอร์เช่ 99X Electric Gen3 รวมทั้งส่งรถแข่งปอร์เช่ 963 คันใหม่ที่ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยี hybrid อันเหนือชั้นลงสนาม ในระหว่างฤดูกาล 2023 รถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 Cup ซึ่งเข้าร่วมแข่งขันในรายการ Porsche Mobil1 Supercup มีกำหนดการเปลี่ยนแปลงน้ำมันเชื้อเพลิงเป็น eFuels ซึ่งผลิตจากโครงการนำร่องของพันธมิตรทางธุรกิจ HIF Global ประเทศชิลี ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านของการแข่งขันกีฬาความเร็วอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีอะไรที่จะตามมาอีกมากมาย”
ทีมงานชุดใหม่ พร้อมต่อสู้เพื่อชัยชนะ overall ที่ Le Mans, Daytona และ Sebring
ภายใต้ชื่อทีมแข่ง Porsche Penske Motorsport บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตจากสตุ๊ทการ์ท ผนึกกำลังกับทีมแข่งรถสุดแกร่งจากอเมริกา Penske ส่งรถแข่งปอร์เช่ 963 จำนวน 2 คัน เข้าร่วมประลองความเร็วเพื่อคว้าแชมป์ overall ในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระยะยาวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดถึง 2 รายการ รถแข่งโปรโตไทป์ hybridพกพาพละกำลังระดับ 680 แรงม้า (500 กิโลวัตต์) ผ่านขั้นตอนการพัฒนา และทดสอบอันหนักหน่วงตลอดระยะเวลากว่า 11 เดือน ด้วยระยะทางที่นักขับต้องเผชิญรวมกว่า 29,713.8 กิโลเมตร รถแข่งปอร์เช่ 963 จะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกในการแข่งขัน Daytona 24 ชั่วโมง ในเดือนมกราคมนี้ รายการระยะยาวสุดคลาสสิกดังกล่าว คือสนามเปิดฤดูกาลของ IMSA championship นอกจากนี้ตลอดทั้งปีทีมงานชุดใหม่จะต้องเข้าร่วมแข่งขันในรายการสำคัญอย่าง Sebring และPetit Le Mans ที่ Road Atlanta ทวีปอเมริกาเหนืออีกด้วย
นอกเหนือจากการป้องกันตำแหน่งแชมป์รายการ FIA World Endurance Championship WEC ทีมแข่ง Porsche Penske Motorsport ยังกำหนดเป้าหมายใหญ่เพิ่มเติม ในเดือนมิถุนายน ทีมงานตั้งใจที่จะคว้าแชมป์ overall สมัยที่ 20thของ ปอร์เช่ในรายการ Le Mans 24 ชั่วโมง มาครอบครองให้ได้ด้วยรถแข่งปอร์เช่ 963 นับเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองวาระครบรอบการแข่งขันครั้งที่ 100th ของรายการแข่งขันระยะยาวสุดคลาสสิกบนแผ่นดินฝรั่งเศสในปี 2023สำหรับรายการ FIA WEC จะถูกจัดขึ้นในประเทศโปรตุเกส เบลเยียม อิตาลี ญี่ปุ่น บาห์เรน และสหรัฐอเมริกา โดยนักแข่งทั้ง 10 รายจากสังกัด Porsche Motorsport จะเข้าร่วมระเบิดสงครามความเร็วหลังพวงมาลัยของรถแข่งปอร์เช่ 963 ทั้ง 4 คันในรายการ World Endurance Championship และ North American IMSA championship การดำเนินงานของทีมแข่ง Porsche Penske Motorsport จะมีขึ้นใน2 ทำเลที่ตั้งนั่นคือ สาขา Mannheim ประเทศเยอรมนีจะรับผิดชอบการแข่งขันรายการ FIA WEC ส่วนรถที่ลงสนามในรายการ IMSA จะได้รับการดูแลที่Mooresville รัฐ North Carolina ประเทศสหรัฐอเมริกา ในระหว่างฤดูกาลอันสุดแสนดุเดือด รถแข่งปอร์เช่ 963 ยังได้รับการจัดเตรียมเพื่อรองรับทีมแข่งอิสระที่จะลงทำการแข่งขันทั้ง 2รายการเอ็นดูรานซ์เหมือนที่เคยเป็นมา ทีมแข่งที่ยืนยันเข้าร่วมมาแล้วคือทีม JDC Miller MotorSports (IMSA) , ทีม Jota Sport และทีมProton Competition (WEC)
Urs Kuratle ผู้อำนวยการ Factory Racing LMDh กล่าวว่า “เรารับมือได้อย่างดีกับกฎข้อบังคับใหม่ ซึ่งเพิ่งถูกนำมาใช้ในรายการแข่งขัน World Endurance Championship และ North American IMSA series เราเป็นทีมโรงงานรายแรก ที่ผ่านข้อบังคับดังกล่าวได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 การก่อตั้งและดำเนินงานในระดับสากลของทีมแข่ง Porsche Penske Motorsport เป็นอีกหลักชัยสำคัญ ปอร์เช่และ Penske มีประวัติศาสตร์ของความสำเร็จร่วมกันมากมาย ตอนนี้เราต้องการที่จะสร้างมันด้วยกัน”
ปอร์เช่ตั้งเป้าคว้าแชมป์ในรายการ Formula E World Championship
ปอร์เช่ก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้ารายการ Formula E ด้วยรถแข่งปอร์เช่ 99X Electric Gen3 ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นในสำนักงานใหญ่Weissach โดยรถแข่งพลังงานไฟฟ้าคันดังกล่าวจะถูกเปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 14 มกราคม ระหว่างการแข่งขันในรายการ Mexico City E-Prix ณ สนามเปิดฤดูกาลที่ 9 ของรายการ ABB FIA Formula E World Championship โดย รถแข่งปอร์เช่ 99X Electric Gen3 คือปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้ปอร์เช่เอาชนะการแข่งขัน และคว้าตำแหน่งบนโพเดี้ยมมาครอง นอกจากนี้ในส่วนของนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ได้จากการพัฒนา จะกลายเป็นพื้นฐานให้แก่รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าในสายการผลิตปกติรุ่นอื่น ๆ ต่อไป
รถแข่งเจเนอเรชั่นที่ 3 (Gen3) จะถูกส่งลงสนามในฤดูกาลที่ 9 นี้ มีสมรรถนะความเร็วสูงสุด น้ำหนักเบาที่สุด เปี่ยมล้นด้วยพละกำลัง รวมทั้งมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าอันยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา รถแข่งปอร์เช่ 99X Electric Gen3 ใหม่ มีกำลังสูงสุด 350 กิโลวัตต์ (476 แรงม้า) หรือมากกว่ารุ่นก่อนหน้า (Gen2) ถึง 100 กิโลวัตต์ พลังงานอย่างน้อย 40 เปอร์เซ็นต์ สร้างขึ้นโดยการชาร์จย้อนกลับของระบบ regenerative braking ยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานของมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุดถึง 95 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีประสิทธิภาพประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์
Florian Modlinger ผู้อำนวยการ Factory Motorsport Formula E กล่าวว่า “รถแข่งGen3 คันล่าสุด คือตัวแทนของนวัตกรรมเทคโนโลยีในการแข่งขันรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งรถแข่งเหล่านี้คือความหวังที่จะปลุกให้การแข่งขันรถยนต์รายการนี้ทวีความน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับแฟนกีฬา และยกระดับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลกให้แก่ Formula E”
สำหรับการแข่งขันรายการ Formula E ฤดูกาลที่ 4 ของปอร์เช่ ทีมแข่ง TAG Heuer Porsche Formula E ส่งรถแข่งปอร์เช่ 99X Electric Gen3 ลงสนาม 2 คัน นอกจากนี้ยังมีรถแข่ง 99X Electric Gen3 อีก 2 คันที่เข้าร่วมกรำศึกจาก Avalanche Andretti ในฐานะทีมแข่งอิสระรายแรกของปอร์เช่ในรายการ Formula E ทั้งนี้ Formula Eคือการแข่งขันรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายการแรก ซึ่งได้นำพาการแข่งขันกีฬาความเร็วที่น่าตื่นเต้น มาสู่บรรดาแฟน ๆ มอเตอร์สปอร์ตในหัวเมืองใหญ่ทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2014 ปอร์เช่เน้นย้ำความสำคัญของ Formula E ที่มีต่อ PorscheMotorsport ด้วยการสนับสนุน รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า ไทคานน์ เทอร์โบ เอส(Taycan Turbo S) เป็นรถ safety อย่างเป็นทางการของการแข่งขันในฤดูกาล2023โดยสีตัวถังของรถเกิดขึ้นจากการผสมผสานสีประจำทีมแข่งทั้ง 11 ทีม นอกจากนี้ Formula E ยังเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความร่วมมือในการพัฒนาอนาคตของยานยนต์ไฟฟ้าพร้อมกับสร้างคุณค่าให้แก่สังคม อาทิ ความแตกต่างหลากหลาย และการสร้างสรรค์ชุมชน
ทีมงานฤดูกาล 2023: ที่สุดของนักแข่งระดับยอดฝีมือ
พร้อมกับการเปิดตัวรถแข่งรุ่น 963 ในการแข่งขันเอ็นดูรานซ์ ปอร์เช่ยังได้ปรับรายชื่อนักขับซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หนึ่งในนั้นคือการหวนกลับมาลงสนามอีกรอบของ Nick Tandy หลังหยุดพักไปร่วม 2 ปี สำหรับฤดูกาล 2023 นี้ หนุ่มใหญ่ชาวเมืองผู้ดีอายุ 38 ปี จาก Bedford ประเทศอังกฤษ จะแชร์ที่นั่งในรถแข่งปอร์เช่หมายเลข 6 ร่วมกับนักแข่งเลือดฝรั่งเศส Mathieu Jaminet ในรายการIMSA series ในส่วนของการแข่งขัน Daytona 24 ชั่วโมง ได้รับการสนับสนุนจาก Dane Cameron จากสหรัฐอเมริกา รถแข่งโปรโตไทป์ LMDh คันที่ 2 หมายเลข 7 ที่จะลงสนามในการชิงแชมป์บนทวีปอเมริกาเหนือนั้น จะรับผิดชอบหน้าที่หลังพวงมาลัยร่วมกันโดย Matt Campbell จากออสเตรเลีย และ Felipe Nasr จากบราซิลร่วมด้วย Michael Christensen จากเดนมาร์ก
สามสหายนักแข่งจะลงสนามร่วมกันในรถแข่งปอร์เช่ 963 สองคันในรายการ FIAWorld Endurance Championship WEC สำหรับรถแข่งหมายเลข 5 จับจองพื้นที่โดย Dane Cameron, Michael Christensen และ Frédéric Makowiecki จากฝรั่งเศส สำหรับรถแข่งเพื่อนร่วมทีมหมายเลข 6 กุมบังเหียนโดย Kévin Estre จากฝรั่งเศส ,André Lotterer จากเยอรมนี และ Laurens Vanthoor จากเบลเยี่ยมสำหรับ Gianmaria Bruni จากอิตาลี, Romain Dumas จากฝรั่งเศส, Richard Lietzและ Thomas Preining จากออสเตรีย ยังคงได้รับความไว้วางใจให้อยู่ในรายชื่อนักแข่งสังกัดทีมโรงงานประจำฤดูกาล 2023 รายละเอียดตารางการแข่งขันของนักแข่งกำลังอยู่ระหว่างการหาข้อสรุปสุดท้าย
ทีมแข่งอิสระ: รถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 R เปิดตัวที่ Daytona
รถแข่งคันล่าสุดที่ได้รับการพัฒนา จะสามารถรองรับการเข้าร่วมแข่งขันของทีมแข่งอิสระหลายทีมในการลงสนามรุ่น GT3 ฤดูกาล 2023 รถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 R มีพื้นฐานจากรถสปอร์ตปอร์เช่ 911 รหัสตัวถัง 992 ทั้งนี้ทีมแข่ง Pfaff Motorsportsและทีมอื่น จะส่งรถแข่งพละกำลัง 565 แรงม้า (416 กิโลวัตต์) ลงสนามเป็นครั้งแรกในรายการแข่งขัน Daytona 24 ชั่วโมงในระหว่างวันที่ 28-29 มกราคม 2023 นี้ นักแข่งสังกัดทีมโรงงาน Klaus Bachler จากออสเตรีย และ Patrick Pilet จากฝรั่งเศส จะลงสนามเพื่อป้องกัน ตำแหน่งแชมเปี้ยน IMSA ในรุ่น GTD-Pro พร้อมเสริมทัพด้วย Laurens Vanthoor อีกหนึ่งนักแข่งจากทีมโรงงาน Kévin Estre รับหน้าที่ประจำการหลังพวงมาลัยรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 R คันใหม่ ภายใต้สังกัดทีมแข่งWright Motorsport ปอร์เช่คาดหมายว่าจะมีรถแข่ง GT3 ปรากฎตัวบนกริดสตาร์ทของสนามเปิดฤดูกาล IMSA series ในรุ่น GTD ทั้งหมด 6 คัน
ในเยอรมนี รถแข่งปอร์เช่ GT3 รุ่นใหม่ จะลงทำการแข่งขันรายการ DTM ซึ่งเพิ่งได้รับการปรับโครงสร้างเป็น DTM Endurance หรือที่รู้จักกันดีในชื่อเดิมว่า ADAC GT Masters และเช่นเดียวกับฤดูกาลที่ผ่านมา Thomas Preining รวมทั้ง Dennis Olsen จากเดนมาร์ก ถูกกำหนดให้กลับมาทำหน้าที่นักแข่งในรายการ DTM หลังพวงมาลัยปอร์เช่ 911 GT3 R ซึ่งอาจมีนักแข่งรายอื่นเข้ามาสมทบเพิ่มเติม ส่งผลให้รายชื่อทีมงาน และนักแข่งที่จะเข้าร่วมยังไม่ได้รับการยืนยันในขณะนี้ รายละเอียดทั้งหมดของฤดูกาล 2023 จึงยังไม่สามารถระบุแบบเฉพาะเจาะจง
ปอร์เช่วางแผนส่งนักแข่งลงสนามในรายการ Nürburgring 24-ชั่วโมง โดยมีแนวโน้มว่าจะมอบความไว้วางใจให้ Michael Christensen, Kévin Estre, Frédéric Makowiecky, Nick Tandy และ Thomas Preining รวมถึง Ayhancan Güven อดีตนักแข่งจากโครงการ Porsche Junior จากตุรกี
ในส่วนของการแข่งขันรายการ Intercontinental GT Challenge, GT World Challenge และ Asian Le Mans Series ฤดูกาล 2023 นั้น ทีมแข่งอิสระยังคงได้รับการสนับสนุนจากปอร์เช่เช่นเดียวกับปีก่อนหน้า ทั้งนี้ความช่วยเหลือต่าง ๆ จะครอบคลุมไปถึงการแข่งขันรุ่น GTE-Am ของรายการ FIA WEC และ European Le Mans Series ซึ่งรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR ยังคงสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้สำหรับรุ่น GT4 racing series รถแข่งปอร์เช่ 718 Cayman GT4 RS Clubsport ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วจะทำหน้าที่เป็นม้าศึกไล่ล่าชัยชนะทุกสนามทั่วโลกในเยอรมนีและรถแข่งคันนี้จะลงกรำศึกกับคู่ต่อสู้รายอื่นในการแข่งขัน ADAC GT4 Germany
การแข่งขัน Porsche Mobil 1 Supercup: รายการ Supporting Formula 1 ฤดูกาล 2030
ปอร์เช่ และ การแข่งขัน Formula 1® World Championship ได้ขยายขอบเขตความร่วมมือเป็นระยะเวลา 8 ปี จนกระทั่งสิ้นฤดูกาล 2030 หมายความว่า การแข่งขันPorsche Supercup จะยังคงเป็น support programme ในรายการกรังปรีซ์ที่คัดสรรค์แล้วยาวนานร่วมเกือบ 4 ทศวรรษ ในฤดูกาล 2023 การแข่งขัน international one-make cup จะจัดขึ้นระหว่างการแข่งขัน Formula 1® แปดสนามในทวีปยุโรป สงครามความเร็ว Supercup ครั้งที่ 31 สนามแรกจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม ในฐานะ support race ของ FORMULA 1 GRAN PREMIO DEL MADE IN ITALY E DELL’EMILIA-ROMAGNA ส่วนสนามสุดท้ายจะมีขึ้นที่ Monza ในการแข่งขันFORMULA 1 GRAN PREMIO D’ITALIA เดือนกันยายน
รถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 Cup มีพื้นฐานจากรถสปอร์ตปอร์เช่ 911 รหัสตัวถัง 992 คือรถที่จะลงสนามในรายการ Supercup โดยเชื้อเพลิงที่ใช้เพิ่งได้รับการเปลี่ยนแปลงเป็น bio-based fuels เมื่อปี 2021 ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ มีกำหนดการปรับเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิง eFuels จากโครงการนำร่องของพันธมิตรทางธุรกิจ HIF Global ประเทศชิลี รถแข่งตัวแรง 510 แรงม้า (375 กิโลวัตต์) มีส่วนในการแข่งขันระดับสากลในกว่า 30 ประเทศ รวมทั้งรายการ Porsche Carrera Cups และ Porsche Sprint Challenges ในภูมิภาคต่าง ๆ นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงการแข่งขันอื่น อาทิ Nürburgring Endurance Series ดังนั้นความต้องการรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 Cup จะยังคงอยู่ในระดับสูง และเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา รถแข่งคันที่5,000 ที่มีพื้นฐานจากรถสปอร์ตรุ่น 911 เดินทางออกจากสายการผลิตในโรงงานZuffenhausen ซึ่งนับเป็นหนึ่งในรถแข่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก
พัฒนานักแข่งรุ่นเยาว์: ยกระดับให้ Heinrich พร้อมสนับสนุน Buus นักแข่งPorsche Junior รายใหม่
Bastian Buus จากเดนมาร์ก คือนักแข่ง Porsche Junior ฤดูกาล 2023 ในเดือนกันยายน หนุ่มเมืองโคนมวัย 19 แสดงทักษะฝีมือการขับขี่ได้อย่างน่าประทับใจ ระหว่างขั้นตอนการคัดเลือก ซึ่งมีตัวแทนเข้าร่วมถึง 12 คน เขาได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจาก Porsche Motorsport สำหรับรุ่นพี่ของเขาผู้ซึ่งผ่านการคัดเลือกในฤดูกาล 2022 Laurin Heinrich เพิ่งได้รับการเลื่อนขั้นภายหลังการคว้าชัยชนะในการแข่งขัน Porsche Carrera Cup Deutschland หนุ่มเยอรมนีรายนี้ได้รับสัญญาจากปอร์เช่ให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของนักขับสังกัดทีมโรงงาน
รถแข่งพลังงานไฟฟ้าต้นแบบ สำหรับทีมแข่งอิสระในอนาคต: ปอร์เช่ GT4 e-Performance
รถแข่งพลังงานไฟฟ้า ปอร์เช่ GT4 e-Performance คือตัวแทนที่แสดงให้เห็นถึงความยั่งยืนที่ปอร์เช่จัดเตรียมไว้รองรับทีมแข่งอิสระในอนาคต รถต้นแบบคันดังกล่าวประกอบด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีสุดล้ำที่ถ่ายทอดจากรถแนวคิด Porsche Mission R concept study จากการจำลองสมรรถนะการขับขี่ในรูปแบบการของการแข่งขัน รถคันนี้ให้พละกำลังถึง 612 แรงม้า (450 กิโลวัตต์) เป็นระยะเวลา 30 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่ใช้ในการแข่งขันรายการ Carrera Cup นอกจากนี้ยังสามารถรีดกำลังสูงสุดออกมาได้ถึง 1,088 แรงม้า (800 กิโลวัตต์) กรณีที่ต้องการทำเวลาต่อรอบ และทำความเร็วสูงสุด ปอร์เช่ 718 Cayman GT4 ePerformance มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 Cup รหัสตัวถัง 992 รุ่นปัจจุบัน
หลังการเปิดตัวครั้งแรกในงาน Goodwood Festival of Speed รถแข่ง GT4 e-Performance จะเดินทางไปโชว์ตัวที่ประเทศอื่นทั่วโลก จุดหมายต่อไปคือการแข่งขัน GP Ice Race ระหว่างวันที่ 27 – 29 มกราคม 2023 ใน Zell am See ประเทศออสเตรีย ส่วนจุดหมายอื่นในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย จะตามมาในปี2024 สนองตอบต่อกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน โครงการ “race2zero” ปอร์เช่มุ่งมั่นในแนวทางการใช้โลจิสติกส์ที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทางเรือ รถไฟ หรือรถบรรทุก
ทีมแข่ง Porsche Coanda Esports Racing: ทีมงาน sim racing สังกัดโรงงานปอร์เช่
Porsche Motorsport ส่งทีมงาน และนักแข่งภายใต้ความดูแลของโรงงาน เข้าร่วมการแข่งขัน esports โดยบุคลากรในทีมประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ sim racing ได้แก่ Josh Rogers จากออสเตรเลีย, Mack Bakkum จากเนเธอร์แลนด์, Mitchell deJongจากสหรัฐอเมริกา และ Tommy Østgaard จากนอร์เวย์ ซึ่งทั้ง 4 นักแข่งคือสุดยอดปรมาจารย์ที่จะลงแข่งขันในนามของทีม Porsche Coanda Esports Racing ณ เมืองGronau แคว้น Münsterland โดยมีแผนงานใหญ่ที่จัดเตรียมไว้สำหรับปี 2023 ในวันที่ 14/15 มกราคม จะมีการแข่งขัน Le Mans Virtual Series (LMVS) 24-ชั่วโมงรอบชิงชนะเลิศ จากนั้นในเดือนกันยายนคือการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ LMVS รวมทั้งกิจกรรมการแข่งขันเอ็นดูรานซ์อีก 5 รายการ
Porsche Cup: นักแข่งสมัครเล่น Ralf Bohn เจ้าของถ้วยรางวัลรายล่าสุด
การแข่งขัน Porsche Cup ฤดูกาล 2022 ปิดฉากลงด้วยความสำเร็จของ Ralf Bohnรางวัลเกียรติยศที่กำเนิดขึ้นจากความคิดของ Ferry Porsche ซึ่งถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 1970 เพื่อสนับสนุน และสร้างเสริมประสบการณ์ให้แก่นักแข่งมือสมัครเล่น ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา Bohn คือผู้ที่คว้าเอาชัยชนะมาครองได้มากที่สุด ตามด้วย Robert และ Alfred Renauer จากทีม Herberth Motorsport โดย 3 สหายได้ลงสนามไล่ล่าความสำเร็จในรายการ Asian Le Mans Series และสามารถคว้าอันดับ 2 ในรุ่น GT รวมทั้งคว้าอันดับ 3 ในรุ่น gold category ของรายการ GT World Challenge Europe Endurance Cup นักแข่งชาวเยอรมนีได้รับถ้วยเกียรติยศ และเงินรางวัลรวมมูลค่า 150,000 ยูโร โดยสามารถใช้สั่งซื้อรถยนต์ปอร์เช่คันใหม่ได้ตามความต้องการ