วอลโว่ ทรัคส์ ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถหัวลากรุ่นใหม่ Volvo FM13 Smart Eco เป็นหัวลากรุ่นย่อยของ Volvo FM13 เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ประกอบการขนส่งในประเทศไทย โดยมีการพัฒนาฟีเจอร์ในตัวรถให้ช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งสนับสนุนสภาพแวดล้อมของผู้ขับขี่ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพการทำงาน ที่ดียิ่งขึ้น
มร. มาร์ติน ซอมเมอร์ รองประธานฝ่ายขายวอลโว่ ทรัคส์ กล่าวว่า “สำหรับรถหัวลากวอลโว่ รุ่นย่อยใหม่ Volvo FM13 Smart Eco 400 แรงม้า เป็นอีกรุ่นที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์งานขนส่งที่หลากหลาย และมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เพียงพอ หลังจากแนะนำรถรุ่นนี้ลงตลาดไปช่วงเดือนมีนาคม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เราได้มีการให้ลูกค้าหลายบริษัทได้นำรถไปวิ่งงานจริงเพื่อขับทดสอบสมรรถนะ และพิสูจน์เรตน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมีการแบกน้ำหนักตามกฏหมายในหลากหลายเส้นทาง อาทิ เช่น เส้นทางแม่สอด – ระยอง เส้นทางขึ้น-ลงเขาในพื้นที่จังหวัดลำพูน ลำปาง และอื่น ๆ พบว่าผลตอบรับจากการทดสอบส่วนใหญ่เป็นที่น่าพอใจ เราจึงมั่นใจว่า Volvo FM13Smart Eco จะสามารถตอบโจทย์ในงานขนส่งสำหรับลูกค้าทั้งวอลโว่ปัจจุบัน และรวมถึงลูกค้าเจนเนอเรชั่นใหม่ที่อยากลองใช้รถบรรทุกยุโรปในธุรกิจขนส่ง”
ประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้น
รถหัวลากวอลโว่ รุ่นย่อยใหม่ Volvo FM13 Smart Eco 400 แรงม้า มาพร้อมกับ เกียร์ I-Shift ที่มีระบบซอฟต์แวร์อัพเดตใหม่ใหม่ G-Version ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์แม่นยำ และเร็วขึ้นถึง 30 % ให้การขับขี่นุ่มนวล ลื่มไหล การส่งถ่ายกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดียิ่งขึ้น
เพิ่มสมรรถนะงานขนส่งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ด้วยคุณสมบัติของช่วงล่างถุงลม อัพเกรดใหม่ ที่มีขนาดใหญ่ชึ้น และได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมกับตลาดเอเชียที่มีอากาศร้อนโดยเฉพาะ ทำให้มีสมรรถนะในการรับน้ำหนักได้อย่างยอดเยี่ยม และให้การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น
สนับสนุนพนักงานขับรถให้สะดวกสบาย และไม่เมื่อยล้าแม้ต้องขับรถทางไกล
หัวเก๋งมีพื้นที่ในการทำงานที่กว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมให้ทัศนวิสัยดียิ่งขึ้นด้วยหน้าต่างบานใหญ่ แนวขอบประตูที่ต่ำกว่าเดิม และแผงกระจกใหม่ คอพวงมาลัยที่ปรับเอียงได้ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับตำแหน่งการขับขี่ให้เหมาะสมที่สุดได้ และยังมีแผงแดชบอร์ดหน้าปัดเรือนไมล์ขนาด 12 นิ้วแบบ Full digital พร้อมให้ข้อมูลที่ครบครัน และช่วยให้ผู้ขับขี่ดูหรือเลือกข้อมูลที่ต้องการได้อย่างสะดวก
ยกระดับระบบความปลอดภัยเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
การขับขี่มีความสะดวกสบายและปลอดภัยขึ้นด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control: ACC) ที่ทำงานได้จนถึงความเร็วที่ 0 กม./ชม. และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบดาวน์ฮิลล์ (Downhill Cruise Control) ที่สั่งงานเบรกล้อโดยอัตโนมัติเมื่อจำเป็นต้องใช้แรงเบรกเป็นพิเศษเพื่อรักษาความเร็วขณะขับลงทางลาดให้คงที่ ระบบเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (Electronically controlled Brake System: EBS) ซึ่งเป็นระบบเบื้องต้นที่ทำงานร่วมกับคุณลักษณะด้านความปลอดภัยอื่นๆ
“นอกจากตัวรถที่ให้การขนส่งที่ประหยัดน้ำมัน ปลอดภัย และสะดวกสบายต่อผู้ขับขี่แล้ว การบำรุงรักษาตัวรถยังวอลโว่ ทรัคส์ ยังมีรอบการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ยาวนานสูงสุดทุก 75,000 กม. หรือทุก 12 เดือน ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามลักษณะการใช้งาน และความหนักเบาในการใช้รถ และยังให้การรับประกันอะไหล่แท้ 2 ปีหากมีการเข้าการบริการที่ศูนย์บริการ ดังนั้นการลงทุนในรถบรรทุกยุโรป แบรนด์วอลโว่ ผู้ประกอบการจะสามารถใช้งานรถได้อย่างยาวนาน และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอนครับ” มร.มาร์ติน ซอมเมอร์ กล่าวทิ้งท้าย