เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดงาน GWM Partner Meeting ประจำปี 2566 ภายใต้ธีม “Reach New Heights ก้าวสู่จุดหมายใหม่ไปด้วยกัน” เพื่อประกาศกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานของปี 2566 พร้อมเผยผลสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตอกย้ำการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) ในประเทศไทย พร้อมแสดงความขอบคุณต่อพาร์ทเนอร์ที่ให้การสนับสนุนและความไว้วางใจในการร่วมมือกันเพื่อเติมเต็มระบบนิเวศทางยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศ ที่จะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวขึ้นสู่ระดับนานาชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ
งาน GWM Partner Meeting ปีนี้ จัดขึ้น ณ โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ กรุงเทพ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา นำโดย มร. ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยทีมผู้บริหารและพนักงานจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) โดยมีเหล่าพาร์ทเนอร์กว่า 67 แห่ง จำนวน 128 ท่านทั่วประเทศเข้าร่วมงาน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ที่ผ่านมา รวมถึงรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย กลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจ ทั้งกลยุทธ์ทางด้านการขาย การขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายและสถานีอัดประจุไฟฟ้า การตลาดผลิตภัณฑ์ การสื่อสารองค์กรและการประชาสัมพันธ์ รวมถึงกลยุทธ์การบริการหลังการขายที่จะยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ไปอีกขั้น พร้อมร่วมรับฟังกลยุทธ์การสนับสนุนการขายจากพันธมิตรสถาบันการเงินสำคัญต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการประชุมกันอย่างคับคั่ง นอกจากนี้ ผู้ร่วมงาน GWM Partner Meeting ทุกท่านยังได้ร่วมพูดคุยกับผู้บริหารเกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เราได้ส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้กับผู้บริโภคชาวไทยไปมากกว่า 15,000 ครอบครัว รถยนต์ HAVAL H6 Hybrid SUV ครองตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์คอมแพคเอสยูวีอย่างแข็งแกร่งและยาวนานต่อเนื่องเป็นระยะเวลา12 เดือนในปีที่ผ่านมา ส่วนเจ้าเหมียวไฟฟ้าขวัญใจมหาชน ORA Good Cat ยังคงได้รับความนิยมจากแฟน ๆ ชาวไทย ครองสัดส่วนทางการตลาดได้มากกว่า 30% ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% รวมถึงความสำเร็จอื่น ๆ อีกมากมายที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้เข้ามาสร้างความแตกต่างให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย เราขอขอบคุณพาร์ทเนอร์ทุกท่านที่ไว้ใจและคอยให้การสนับสนุนเสมอมา โดยทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยังคงรับฟังทุกความคิดเห็น ข้อติชมและแนะนำของทุก ๆ ท่านอย่างต่อเนื่อง ผมมั่นใจว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะสามารถยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” มร. ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวเปิดงาน
ด้าน นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวเสริมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ในการดำเนินการในปีนี้ว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงเล็งเห็นถึงความสำคัญและโอกาสการดำเนินธุรกิจจากการเติบโตของกลุ่มยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2566 จะอยู่ที่ประมาณ 920,000 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ7% จากปี 2565 โดยจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประมาณ 164,500 คัน หรือคิดเป็น 18% ของยอดขายรวมทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้น เราคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของประเทศไทยจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญหรือคิดเป็นประมาณ 25% ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดหรือ 40,000 คัน ซึ่งเติบโตเกือบ 150% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญของเกรท วอลล์ มอเตอร์และพาร์ทเนอร์ทุกท่านในการนำเสนอและส่งมอบผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยและแนวโน้มตลาดดังกล่าว นอกจากนี้ ในปีนี้เรายังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับพาร์ทเนอร์ทุกท่าน ผ่านการขยายโอกาสด้านธุรกิจฟลีท และการตั้งธุรกิจ GWM Certified Pre-Owned เพื่อบริหารจัดการรถยนต์ใช้แล้วของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษที่เหนือกว่า ซึ่งธุรกิจใหม่ทั้งสองรูปแบบนี้จะช่วยขยายโอกาสการดำเนินธุรกิจให้พาร์ทเนอร์เติบโตได้อย่างมั่นคง พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของเราทุกคน เพื่อผลักดันให้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของไทยอย่างแท้จริง นอกจากนี้ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์และพันธมิตรต่าง ๆ ในการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็ว (DC Fast Charge) ให้ครอบคลุม 55 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้ เพื่อเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้แข็งแกร่งและมีความพร้อมมากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังร่วมลงนามความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ใหม่ อีก 12 ราย เพื่อพัฒนารูปแบบการให้บริการและเพิ่มช่องทางการให้บริการให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และการบริการของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยภายในปี 2566 เกรท วอลล์ มอเตอร์มีเป้าหมายที่จะขยายสาขา GWM Store ให้เป็นอย่างน้อย 100 แห่งทั่วประเทศ โดยรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบพาร์ทเนอร์นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งมอบประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้กับผู้บริโภค ฉีกกฎการดำเนินธุรกิจของระบบตัวแทนจำหน่ายแบบเดิม และยังมีส่วนช่วยเปลี่ยนบทบาทของตัวแทนจำหน่ายที่เน้นการขายมาเป็นผู้ให้บริการกับลูกค้าของเรา (Service Provider) รวมถึงการนำ One-Price Policy การขายราคาเดียวข้อเสนอเดียวทั่วประเทศ เข้ามาตอบโจทย์การซื้อรถของผู้บริโภค การรับฟังเสียงและเน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (User-Centric) และการนำรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ที่ผสานระหว่างแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกัน โดยมี GWM application เป็นหัวใจหลักของการดำเนินงาน
“เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขอขอบคุณสำหรับความไว้วางใจและร่วมมืออันดีจากพาร์ทเนอร์ทุกท่านที่ช่วยให้ธุรกิจของเราประสบความสำเร็จในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าไปพร้อมกับพาร์ทเนอร์ทุกท่าน เพื่อขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภค ผมเชื่อว่าครอบครัว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ของเราจะทวีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นส่วนสำคัญในเร่งสร้างระบบนิเวศทางยานยนต์ไฟฟ้าให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น รวมถึงสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านยานยนต์ไฟฟ้าและผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวขึ้นสู่ระดับนานาชาติและเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน” นาย ณรงค์ กล่าวปิดท้าย