ตัวเลขยอดส่งมอบรถยนต์ของปอร์เช่ยังคงยังดีต่อเนื่องในช่วง 3เดือนแรกของปี จากสถิติภาพรวม ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมที่ผ่านมา ปอร์เช่ได้ส่งมอบรถยนต์แล้วถึง 77,640 คันให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ซึ่งลดลงเล็กน้อยประมาณ 4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
เดทเลฟ วอน พลาเทิน (Detlev von Platen) สมาชิกคณะกรรมการบริหารฝ่ายขายและการตลาดของ Porsche AG กล่าวว่า “สำหรับปี 2024 ถือเป็นปีที่เรากำลังเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ด้วย มาคันน์ (Macan) รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% รวมถึง พานาเมร่า (Panamera), ไทคานน์ (Taycan) และ 911 ใหม่ โดยเราได้ปรับโฉมไลน์ผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 รุ่นจากทั้งหมด 6 รุ่นของเรา ถึงแม้ว่าจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงความล่าช้าในการส่งมอบเนื่องจากข้อกำหนดด้านกฎระเบียบในอเมริกาเหนือ และสถานการณ์ตลาดที่ท้าทายในประเทศจีน แต่เรายังสามารถรักษายอดส่งมอบให้อยู่ในระดับคงที่ได้”
การเติบโตในยุโรปและตลาดต่างประเทศ
ในทวีปยุโรป (ไม่รวมประเทศเยอรมนี) ปอร์เช่ได้ส่งมอบรถยนต์ถึง 20,044คันในไตรมาสแรก ซึ่งเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับตลาดเยอรมณี ซึ่งเป็นตลาดบ้านเกิดของปอร์เช่ มีตัวเลขจำนวนรถยนต์ที่ส่งมอบเพิ่มขึ้นถึง 37% รวมเป็น 11,274 คัน ส่วนในประเทศจีนผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตหรูปอร์เช่ได้ส่งมอบรถยนต์จำนวน 16,340 คัน ในระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม ซึ่งลดลง 24% โดยมีสาเหตุหลักมาจากมูลค่าราคาขาย และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ตึงเครียดอย่างต่อเนื่องในตลาดจีน รวมถึงยังเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะต้องเร่งสร้างความแข็งแรงด้านการเติบโตสืบเนื่องมาจากผลกระทบในช่วงแรกหลังการระบาดของโควิดที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของอเมริกาเหนือ ปอร์เช่ส่งมอบรถยนต์ 15,087คันให้แก่ลูกค้า ซึ่งลดลง 23% โดยมีสาเหตุหลักมาจากความล่าช้าที่เกี่ยวข้องกับศุลกากรในการจัดส่งรถบางรุ่น สำหรับในตลาดต่างประเทศและตลาดเกิดใหม่ (overseas and emerging markets) มีการส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าจำนวน 14,895 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 14%
มาคันน์ (Macan) รุ่นพลังงานไฟฟ้า 100% ยังเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาด
ปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) มียอดส่งมอบสูงสุดในไตรมาสแรก ถึง 28,025 คัน หรือเพิ่มขึ้น 20% ในส่วนของ ปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan) มียอดส่งมอบให้กับลูกค้าจำนวน 20,576 คัน ซึ่งลดลง 14% เป็นผลมาจากยอดขายในช่วงเดียวกันของปีก่อนมีจำนวนมากเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ ปอร์เช่มียอดรับคำสั่งซื้อรถ SUV พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกนี้เป็นจำนวนมาก โดยรถยนต์คันแรกจะถูกส่งมอบให้แก่ลูกค้าในช่วงครึ่งปีหลัง 2024
ในส่วนของรถสปอร์ตปอร์เช่ 911 ซึ่งเป็นรุ่นเอกลักษณ์ของแบรนด์ก็ยังคงได้รับความนิยมสูงจากลูกค้า โดยมียอดขายทั่วโลกอยู่ที่ 12,892 คัน หรือเพิ่มขึ้น 17% สำหรับพานาเมร่า (Panamera) มียอดส่งมอบให้กับลูกค้า 6,139คน ถือว่าลดลงถึง 28% ซึ่งมีผลมาจากการเปลี่ยนโฉมรุ่นปัจจุบัน เช่นเดียวกับ ไทคานน์ (Taycan) รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าได้ส่งมอบในไตรมาสแรกให้ลูกค้าทั้งหมดจำนวน 4,236 คน ตัวเลขลดลง 54% แต่อย่างไรก็ตามโมเดลรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการปรับแต่งใหม่ครบทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้น อัตราเร่งที่เร็วขึ้น และใช้ระยะเวลาในการชาร์จที่สั้นลง โดยการส่งมอบให้กับลูกค้าครั้งแรกจะเริ่มในเดือนเมษายน ส่วนรถยนต์รุ่น 718 บ็อกซ์เตอร์ (Boxster)และ 718 เคย์แมน (Caymen) มียอดส่งมอบ 5,772 คัน หรือเพิ่มขึ้น 20%
เดทเลฟ วอน พลาเทิน (Detlev von Platen) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วยความน่าสนใจของรถยนต์รุ่นใหม่ของเรา กล่าวได้ว่าในปี 2024 นี้ เรากำลังนำเสนอไลน์ผลิตภัณฑ์ที่มีสมรรถนะสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาออกสู่ท้องถนน และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับอนาคต อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นในช่วงเวลาสั้นๆ ถือเป็นความท้าทายอย่างมาก เราต้องดำเนินการด้วยความใส่ใจและรอบคอบ โดยเป้าหมายในปี 2024 ของเรายังคงเป็นการมุ่งเน้นไปที่การขายที่มุ่งเน้นคุณค่า”