บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2563 ย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์หรูเมืองไทยต่อเนื่องด้วยยอดขายของรถยนต์ Mercedes-AMG และรถยนต์ EQ Power ที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และยอดขายรวมในเดือนมิถุนายนก็เติบโตขึ้นเหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้สะท้อนความต้องการใช้รถของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เริ่มกลับมาใช้จ่ายมากขึ้นหลังเกิดวิกฤติโควิด และชี้ให้เห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับของตลาดรถยนต์ในไตรมาสที่ 3 และในช่วงครึ่งปีหลัง และเพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้า เมอร์เซเดส–เบนซ์ จึงจัดแคมเปญ “Star Phenomenon” แคมเปญการตลาดที่จะเกิดขึ้นพร้อมกันที่โชว์รูมและศูนย์บริการของผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส–เบนซ์ทั่วประเทศ กับข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 0.99% นาน 48 เดือน สำหรับรถยนต์เมอร์เซเดส–เบนซ์ทุกรุ่น ตั้งแต่วันที่ 10-31 กรกฎาคมนี้
มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 เมอร์เซเดส–เบนซ์ได้ส่งมอบรถยนต์ทุกรุ่นทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (Mercedes-Benz Cars) และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (Mercedes-Benz Vans) ให้กับลูกค้าทั่วโลกไปแล้วเป็นจำนวน 1,071,136 คันในภาพรวมนับว่าเป็นตัวเลขที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากวิกฤติโควิดที่กระทบกับตลาดรถยนต์ทั่วโลก ทว่าในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยอดขายของเมอร์เซเดส–เบนซ์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ยอดขายโดยรวมในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ในประเทศจีนเติบโตขึ้นถึง 21.6% ชี้ให้เห็นแนวโน้มว่าผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายของเมอร์เซเดส–เบนซ์นั้นมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์เมอร์เซเดส–เบนซ์ สำหรับในตลาดไทยรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG สามารถทำยอดขายในไตรมาสที่ 1 ได้เพิ่มขึ้นถึง 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และทำยอดขายรวมในครึ่งปีแรกเติบโตขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนรถยนต์ EQ Power หรือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของเมอร์เซเดส–เบนซ์มีสัดส่วนของยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 31% ในไตรมาสที่ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 63 รถยนต์รุ่น G-Class ยังทำยอดขายเพิ่มขึ้นสูงถึง 225%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ยอดขายรถยนต์เมอร์เซเดส–เบนซ์ในเดือนมิถุนายนก็เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้ ชี้ให้เห็นแนวโน้มในทางบวกของตลาดรถยนต์ไทยในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้”
“ก่อนหน้านี้ เมอร์เซเดส–เบนซ์เพิ่งเปิดตัวโครงการ “Charge to Change” อย่างเป็นทางการ เพื่อชวนผู้ใช้รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทั่วประเทศหันมาชาร์จไฟฟ้าเพื่อลดปัญหา PM 2.5 และร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมและสร้างสุขภาวะที่ดีขึ้นให้คนไทย โครงการนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนอย่างอบอุ่น ซึ่งเราต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้ความสนใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสื่อสารเรื่องราวของแบรนด์เมอร์เซเดส–เบนซ์ออกไปยังผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ประกอบกับการที่เพจ Mercedes-Benz Thailand ในเฟซบุ๊คก้าวสู่การมีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน รวมถึงการทำวิดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์ 10 รุ่นของเมอร์เซเดส–เบนซ์ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมด้วยยอดวิวรวมกว่า 615,000 วิว ทั้งหมดนี้จึงทำให้แบรนด์เมอร์เซเดส–เบนซ์สามารถเข้าถึงและใกล้ชิดกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา สะท้อนกลับมาเป็นยอดขายที่เติบโตขึ้นในทิศทางที่เป็นบวกแม้ทุกคนยังต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด”
“ทั้งนี้ ด้วยนโยบายของทางบริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ เอจี เยอรมนี ที่ต้องการให้เมอร์เซเดส–เบนซ์ทั่วโลกให้ความสำคัญเป็นพิเศษในเรื่องของสุขอนามัยและความปลอดภัยทั้งของพนักงานเมอร์เซเดส–เบนซ์ พันธมิตร และลูกค้าของเราทั่วโลกในช่วงเวลาของการระบาดของไวรัสโควิด จึงเป็นที่มาให้เราตัดสินใจไม่เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ในปีนี้ ทว่าเพื่อเป็นการกระตุ้นการเติบโตของตลาดรถยนต์หรูต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 พร้อมทั้งมอบข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าในช่วงเวลาเดียวกันกับงานมอเตอร์โชว์ เราจึงนำเสนอแคมเปญพิเศษที่ใช้ชื่อว่า “Star Phenomenon” พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ โดยสำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส–เบนซ์ทั้ง 36แห่งทั่วประเทศ” มร. โรลันด์ กล่าวเพิ่มเติม
แคมเปญ “Star Phenomenon” ของเมอร์เซเดส–เบนซ์พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 0.99% สำหรับเงินดาวน์ขั้นต่ำ 25% นาน 48 เดือนสำหรับรถยนต์เมอร์เซเดส–เบนซ์ทุกรุ่น ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส–เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10-31กรกฎาคมนี้