การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบชั้นนำของเมืองไทย รายการ Idemitsu Super Turbo Thailand 2020 ได้ฤกษ์กลับมาแข่งขันอีเวนต์แรก ด้วยการอัดโปรแกรมความมันส์ให้แฟนความเร็วชาวไทยได้ชมอย่างจุใจถึง 3 สนามติดต่อกัน ระหว่างวันที่ 17-19 กรกฎาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สังเวียนความเร็วระดับโลกของไทย
โดยมีนักกีฬามอเตอร์สปอร์ตตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 100 คัน จากการดวลความเร็วทั้งสิ้น 7 รุ่น ประกอบด้วยรุ่น Super Turbo Tha, รุ่น Super Turbo D1, รุ่น Super Turbo D2, รุ่น Super Turbo D3, รุ่น Super Turbo D4, รุ่น Pickup Turbo Tha และรุ่น Japan20+ ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเร่งครัด
“วีรกาจ” ไร้เทียมทาน ผงาดแชมป์รุ่นใหญ่ 3 สนามติดต่อกัน
ไฮไลต์ของสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่คลาสสูงสุดอย่าง Super Turbo Tha, รุ่น Super Turbo D1 ที่ลงทำการแข่งขันพร้อมกันทั้งสิ้น 17 คัน โดยเพียงเรซแรกก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน โดยในรอบที่ 4 กรรมการต้องตีธงแดงเพื่อระงับการแข่งขันชั่วคราว เมื่อรถแข่งของ “เทอร์โบ” มั่นคง เสถียรถิระกุล จาก สิทธิผล กรุ๊ป KI-Sugar เกิดเหตุขัดข้องจนไฟลุกท่วมห้องเครื่อง นักขับถูกช่วยเหลือออกจากรถแข่งได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัยไรปัญหา
โดยแชมป์สนามแรกตกเป็นของ วีรกาจ ดอกจันทร์ แชมป์เก่าจาก World Pumps Racing Team ที่ออกตัวจากริดที่ 2 ก่อนควบรถแข่งเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 16 นาที 3.45 วินาที ส่วนอันดับ 2 เป็นของ สุวิจักษณ์ หงส์เศวตร จาก K1 Racing Team ตามหลังแชมป์ 6.5 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของเจ้าของโพลอย่าง เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ จากสังกัด K-Sport K1 Racing Team ตามหลังแชมป์ 8.5 วินาที
ส่วนสนามที่ 2 เกมกลุ่มผู้นำเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหลังผ่าน 3 รอบสนาม เมื่อ เตชิษฐ์ ต้องรีไทร์ตั้งแต่รอบที่ 2 ส่งผลการลุ้นแชมป์เรซนี้ไม่ยากนักสำหรับ วีรกาจ ที่นำโด่งเข้าป้ายด้วยเวลา 18 นาที 29.637 วินาที ตามด้วย สุวิจักษณ์ และ ชัญญบุศย์ ธนะพาสุข จาก CFON Racing Team ที่ชิงอันดับ 2 และ 3 กันอย่างสุดมันส์ต้องตัดสินกันหน้าเส้นชัย
เข้าสู่สนาม 3 ในวันอาทิตย์ ฝ่ายจัดการแข่งขันเพิ่มความมันส์จาก 10 รอบสนาม เป็น 11 รอบสนาม สร้างความเร้าใจให้แฟนความเร็วอย่างมาก โดยเรซส่งท้ายสุดสัปดาห์ วีรกาจ ยังคงรักษาผลงานยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง พารถแข่งเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 20.437 วินาที ผงาดคว้าแชมป์ 3 สนามติดต่อกันที่ บุรีรัมย์ ส่วนอันดับ 2 ในเรซนี้ตกเป็นของ อนุสรณ์ อาศิรเลิศศิริ จาก YK Motorsport Billionaire Boy by Sunoco ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ ชัญญบุศย์ ธนะพาสุข จาก CFON Racing Team
“เอกประวัติ” ฟอร์มชั้นครูแบ่งแชมป์ Super Turbo D2 กับ “ณัฐนิช” นักขับสาวยอดฝีมือ
เกมในคลาส Super Turbo D2, รุ่น Super Turbo D3 ลงแข่งขันพร้อมกันด้วยรถแข่งรวมกันถึง 29 คัน โพลสนามแรกเป็นของยอดนักขับดาวรุ่งอย่าง มาวิ่น บุญอิต จาก Star Performance โดยมี ณัฐนิช ลีวัฒนาวรากุล จาก YK Motorsport Billionaire Boy by Sunoco ขนาบข้างในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ นักขับชั้นครูของเมืองไทยจาก สิทธิผล กรุ๊ป – KU Sugarความพลิกผันในเรซนี้เกิดขึ้นในรอบที่ 8 เมื่อ มาวิ่น ผู้นำต้องออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย หลังจากที่รถแข่งมีปัญหา ส่งผลให้ เอกประวัติ ขยับขึ้นเป็นผู้นำ ก่อนคว้าแชมป์สนามแรกไปครองด้วยเวลา 18 นาที 36.268 วินาที เฉือน ขจรศักดิ์ ณ สงขลา จาก PTT Performa – V.C.Meat – RPM – Nexzter อันดับ 2 เพียง 1.715 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของนักขับสาวอย่าง ณัฐนิช ที่ตามหลังป้ายด้วยระยะเวลาตามหลังแชมป์ 21.999 วินาที
เข้าสู่การแข่งขันสนามที่ 2 ณัฐนิช ที่อยู่บนกริดสตาร์ทแถวหน้า ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 18 นาที 35.650 วินาที ผงาดคว้าแชมป์ Super Turbo D2 สนามที่ 2 ไปครอง และถือเป็นแชมป์แรกของตนเองในปีนี้ เหนือนักขับจอมเก๋าอย่าง เอกประวัติ ที่ตามเข้าป้ายในอันดับ 2 อยู่ 2.194 วินาที ส่วนอันดับ 3 ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ขจรศักดิ์ ตามหลังแชมป์ 5.640 วินาที
ขณะที่เกมสนาม 3 ของ Super Turbo D2 ดวลกันอย่างเข้มข้น ณัฐนิช ที่ออกสตาร์ทจากโพล โดนไล่บี้อย่างหนักโดย ขจรศักดิ์ ทว่าช่วงกลางเรซเกิดความพลิกผันเมื่อนักขับสาวพลาดหมุน ก่อนโดน ขจรศักดิ์ ตามเข้ามาชนส่งผลให้ ณัฐนิช ต้องรีไทร์จากเรซอย่างน่าเสียดาย ขณะที่ ขจรศักดิ์ ได้รับความเสียหายอย่างหนักที่ส่วนหน้าของรถแข่ง แต่พยายามขับต่อเพื่อให้จบเรซ
จากเหตุการดังกล่าวส่งผลให้ เอกประวัติ ที่ออกสตาร์ทจากจากท้ายแถวในกริดที่ 19 ทะยานไล่แซงคู่แข่งมากถึง 18 คัน ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำก่อนเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 21 นาที 3.315 วินาที คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างสุดมันส์ เหนืออันดับ 2 อย่าง ฉัตรพล เจียมวิจิตร จาก RMI Jun Racing Team อยู่ 3.610 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ทยาพล คงสุวรรณ์ จาก Eakie – BOSCH – Sleep Lap Hotel ตามหลังแชมป์ 15.742 วินาที
“ยศรัญ” ซิวชัยสนามแรก “ณัฐพงษ์” เบิ้ลแชมป์ Super Turbo D3 สนาม 2-3
ด้านเกมในคลาส Super Turbo D3 ถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่มีความสนุกเข้มข้นไม่แพ้รุ่นอื่นๆ โดยสนามแรกแชมป์ตกเป็นของ ยศรัญ แสนสุข จาก Fortron Racing Team by Vattana Motorsport ที่เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 19 นาที 42.316 วินาที เหนือทีมเมทอย่าง ณัฐพงษ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล อันดับ 2 อยู่ 5.373 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ อานนท์ รอดประเสริฐ จาก เป๊ะ โรงโป๊ะ ตามหลังแชมป์ 13.083 วินาที
ส่วนผลการแข่งขันในคลาส Super Turbo D3 ณัฐพงษ์ สามารถขยับขึ้นมาคว้าแชมป์ไปครองได้บ้าง หลังควบรถแข่งเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 19 นาที 46.577 วินาที เฉือน อานนท์ อันดับ 2 เพียง 0.105 วินาทีเท่านั้น ตามด้วย อณิวัฏ ล้อมมหาดไทย จาก Idemitsu Racing Team Thailand ตามหลังแชมป์ 51.801 วินาที ขณะที่แชมป์สนามแรกอย่าง ยศรัญ ต้องออกจากการแข่งขันในรอบที่ 8
สำหรับผลการแข่งขันสนามที่ 3 ส่งท้ายสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาของ Super Turbo D3 จบเรซ 11 รอบสนาม แชมป์ตกเป็นของ ณัฐพงษ์ ที่พลิกขึ้นนำและเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 21 นาที 43.398 วินาที เฉือน อานนท์ อันดับ 2 เพียง 1.136 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ยศรัญ ตามหลังแชมป์ 16.64 วินาที
“ฐนโรจน์” เข้าวิน 2 สนาม “อริยพล” แบ่งเค้ก 1 เรซ Super Turbo D4
อีกหนึ่งรุ่นที่เป็นไฮไลต์ของ Idemitsu Super Turbo Thailand 2020 คือการแข่งขันในคลาสเล็กอย่าง Super Turbo D4 ที่มีรถเข้าร่วมการแข่งขันมากถึง 20 คัน โดย ฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุ นักขับรูปหล่อจาก YK Motorsport Billionaire Boy by Sunoco เจ้าของโพลสร้างผลงานระดับมาสเตอร์ นำม้วนเดียวจบด้วยเวลารวม 19 นาที 40.025 วินาที ทิ้งห่าง สรรพร เชาวน์ชวานิล จาก Star Performance อันดับ 2 ถึง 15.993 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ดนุวัศ วรกิติไชย จาก Idemitsu Racing Team Thailand ตามหลังแชมป์ 35.654 วินาที
สนามที่ 2 ของ Super Turbo D4 เกิดความพลิกผันอย่างมาก เมื่อ ฐนโรจน์ มีปัญหารถแข่งต้องออกจากเรซในรอบที่ 8 ส่งผลให้แชมป์เรซนี้เป็นของ อริยพล ที่ตามกดดันอย่างหนัก เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 19 นาที 46.075 วินาที ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง สรรพร ถึง 23.759 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ดนุวัศ ตามหลังแชมป์ถึง 29.558 วินาที
ขณะที่เกมในสนาม 3 กลับมาเข้มข้นอีกครั้ง เมื่อ ฐนโรจน์ กลับมาพร้อมเต็มร้อยอีกครั้ง แต่เรซนี้ไม่ใช่งานง่าย เมื่อนักขับหน้าหยกต้องโดนไล่กดดันอย่างหนักจาก สรรพร ตลอดทั้งเรซ จนต้องมาตัดสินชัยชนะกันถึงโค้งสุดท้าย โดยแชมป์สนามนี้ตกเป็นของ ฐนโรจน์ ที่เข้าป้ายคันแรกด้วยเวลา 21 นาที 40.317 วินาที เฉือน สรรพร อันดับ 2 เพียง 1.322 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ อริยพล ตามหลังแชมป์ 2.075 วินาที
“เบสเทอร์โบยำ” ฟอร์มกระฉูดเหมาแชมป์ Pickup Turbo 3 สนามรวด
การแข่งขันรุ่น Pickup Turbo ซึ่งมีรถแข่งบนกริดสตาร์ทมากที่สุดถึง 31 คัน รวมเอาสุดยอดรถแข่งกระบะและนักขับชั้นนำของไทยเอาไว้ โดยโพลโพลซิชั่นแรก เป็นของ “เบสเทอร์โบยำ” ธณพล ชูเจริญผล แชมป์เก่าจาก สุพจน์ ค้าเหล็ก เบสเทอร์โบยำ ภายใต้รถแข่ง Isuzu D-Max ขนาบข้างด้วย เอกสิทธิ์ เกรียงโกมล จาก Nexzter SCG Lenso Team ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ฤาชัย เนียมพิบูลย์ จาก บุญยางชลบุรี ผญ.ไก่ระยอง แสบออโต้แมกซ์ by อู๊ดอ๋องระยอง
เกมสนามแรกดวลกัน 10 รอบสนาม เพียงโค้งแรกหลังโรลลิ่งสตาร์ทก็มีเหตุชุลมุน เมื่อมีนักขับหมุนเคว้งอยู่กลางโค้ง ทำให้รถแข่งกว่า 20 คัน ต้องหลบหลีกกันอย่างอุตลุด แต่ไม่มีปัญหาสำหรับ ธณพล ที่ออกนำตั้งแต่เริ่มเกม เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 13.492 วินาที ทิ้งห่าง จรัส แจ้งกมลกุลชัย อดีตแชมป์ประเทศไทยจาก PTT Lubricant-Lenso Racing Team อันดับ 2 ถึง 14.320 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นการสร้างผลงานสุดยอดของ วริส อ่อนระยับ จาก Tune by Aot ที่ทะยานจากกริดที่ 13 ขึ้นมาจบเรซในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 34.778 วินาที
สนาม 2 ธณพล ออกตัวจากโพลขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว ทิ้งห่างคู่แข่งออกไปอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวล 20 นาที 2.562 วินาที ผงาดคว้าแชมป์ 2 สนามติดต่อกัน ส่วนอันดับ 2 เป็นของ ฤาชัย ตามหลังแชมป์ 8.438 วินาที ตามด้วย เอกสิทธิ์ ในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 12.562 วินาที
ขณะที่การแข่งขันสนาม 3 ของ Pickup Turbo ซึ่งเป็นเรซส่งท้ายสุดสัปดาห์ได้เพิ่มจำนวนรอบเป็น 11 รอบสนาม ยังคงเป็นของ ธณพล ที่โชว์ฟอร์มเหนือชั้นเข้าป้ายคันแรกด้วยเวลา 35 นาที 56.349 วินาที ผงาดคว้าแชมป์ 3 สนามติดต่อกัน อันดับ 2 เป็นของ จรัส ตามหลังแชมป์ 5.146 วินาที ขณะที่อันดับ 3 ในเรซนี้เป็นของ เอกสิทธิ์ ตามหลังแชมป์ 11.299 วินาที
Japan 20+ สุดมันส์! “จิรัฐิ” เข้าวิน 2 สนามแรก “พิพัฒน์” คว้าชัยสนาม 3
เรซแรกของ Japan 20+ ดวลกันทั้งสิ้น 10 รอบสนาม โดยมีรถแข่งลงชิงชั้ยทั้งหมด 15 คัน กริดสตาร์ทเรซนี้มี จิรัฐิ เศวตศิลา จาก Star Performance เป็นเจ้าของโพลขนาบข้างด้วยจอมเก๋าอย่าง หทัย ไชยวัณณ์ จาก Revspec Racing Team ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ พิพัฒน์ เพ็ชรรัตน์ จาก Waxone Racing Project
โดยเกมในเรซนี้ จิรัฐิ ควลคุมสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ออกนำม้วนเดียวจบ เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 19 นาที 14.164 วินาที คว้าชัยชนะโอเวอร์ออลล์และในคลาสทวินแคมไปครอง หนีอันดับ 2 อย่าง พิพัฒน์ ออกไปในช่วงท้ายเรซถึง 4.379 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ เกียรติพรรณ ไผ่เจริญ จาก ก๋วยเจ๋ง Dyno ตามหลังแชมป์ถึง 57.063 วินาที
ส่วนการแข่งขันสนาม 2 แชมป์ยังคงตกเป็นของ จิรัฐิ ที่เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลารวม 19 นาที 13.681 วินาที เข้าวิน 2 สนามติดต่อกัน เหนืออันดับ 2 อย่าง หทัย เพียง 2.723 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ พิพัฒน์ ที่ยังคงรักษามาตรฐานการขับได้อย่างยอดเยี่ยม ตามเข้าป้ายด้วยเวลาตามหลังแชมป์ 13.690 วินาที
ด้านผลการแข่งขันเรซสนาม 3 แชมป์เปลี่ยนมือมาเป็นของ พิพัฒน์ ที่ได้ออกตัวจากโพล ก่อนนำม้วนเดียวจบด้วยเวลา 21 นาที 28.823 วินาที ส่วนการลุ้นอันดับ 2 เข้มข้นอย่างมา เป็น รภัทกร วงษ์ศิริ จาก Supertools Racing Team ที่ไต่จากกริดที่ 5 ขึ้นมาไล่บี้กับ เกียรติพรรณ ไผ่เจริญ จาก ก๋วยเจ๋ง DYNO อย่างสุดมันสตลอดทั้งเรซ โดยทั้งคู่ต้องมาตัดสินอันดับ 2 ถึงโค้งสุดท้าย ผลปรากฏว่าอันดับ 2 ในเรซนี้ตกเป็นของ รภัทกร ที่เอาชนะ เกียรติพรรณ ที่หน้าเส้นชัยเพียง 0.294 วินาทีเท่านั้น
สำหรับการแข่งขัน Idemitsu Super Turbo Thailand 2020 สนามถัดไปจะดวลความเร็วระหว่างวันที่ 28-30 สิงหาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เช่นเคย โดยจะดวลกัน 3 สนามติดต่อกัน แฟนความเร็วสามารถติดตามข่าวสารความเลื่อนไหวได้ที่ http://www.superturbothailand.com/ และ FB : https://www.facebook.com/Superturbothailand/