บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์ครอบครัวที่ประหยัดและคุ้มค่าแห่งยุคอีกครั้ง หลังจากที่ “ยามาฮ่า ฟินน์” ทำสถิติประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 96.16 กม./ลิตร จากการแข่งขันประหยัดน้ำมันจากสื่อมวลชนในกิจกรรม “ฟินน์ กล้า…ท้าประหยัด” เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ได้รับกระแสการตอบรับจากผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในเมืองไทยมาอย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้ยามาฮ่าได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้ใช้รถจักรยานยนต์รถครอบครัวในการประกอบอาชีพ ที่ต้องการความคล่องตัวและความประหยัด เพื่อเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดสำหรับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพ Food Delivery ขึ้นในชื่อกิจกรรม “ฟินน์ กล้า…ท้าประหยัด #2 Food Delivery”
สำหรับกิจกรรม “ฟินน์ กล้า…ท้าประหยัด #2 Food Delivery” นี้ ยามาฮ่าได้ทำการคัดเลือกผู้ที่ประกอบอาชีพ Food Delivery โดยมี Lineman ที่มีประสบการณ์ในการรับ-ส่งอาหารมาเป็นเวลานาน และมีความสามารถในการทำยอดต่อวันสูงเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันจำนวน 5 คน ซึ่งทุกคนจะได้ใช้รถจักรยานยนต์ “ยามาฮ่า ฟินน์” เป็นพาหนะในการแข่งขัน เพื่อรับออเดอร์จากแอปพลิเคชั่น Lineman พร้อม รับ-ส่ง อาหาร ภายในเวลา 6 ชั่วโมง เริ่มต้นรับออเดอร์แรกได้ตั้งแต่เวลา 10.00 น. และรับออเดอร์สุดท้ายได้ไม่เกินเวลา 16.00 น. โดยผู้ที่สามารถทำยอดรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการเติมน้ำมันได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะการแข่งขัน
ก่อนเริ่มต้นการแข่งขัน “ฟินน์ กล้า…ท้าประหยัด #2 Food Delivery” รถจักรยานยนต์ “ยามาฮ่า ฟินน์” ทั้ง 5 คัน จะได้รับการเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เต็มถัง โดยใช้มาตรฐานการวัดระดับน้ำมันแบบเดียวกับที่ใช้ในการแข่งขันประหยัดน้ำมันจากสื่อมวลชนในกิจกรรม “ฟินน์ กล้า…ท้าประหยัด” และจะถูกซีลฝาถังน้ำมันพร้อมลายเซ็นจากกรรมการเหมือนกันทุกคัน โดยในวันที่จัดกิจกรรมการแข่งขัน “ฟินน์ กล้า…ท้าประหยัด #2 Food Delivery” นั้น ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต้องขับขี่ “ยามาฮ่า ฟินน์” ท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนตลอดทั้งวัน เนื่องจากมีฝนตกเกือบตลอดเวลาและต้องเจอกับสภาพการจราจรที่หนาแน่นติดขัด แม้ว่าผู้เข้าแข่งขันทั้ง 5 คนจะแยกย้ายกระจายตัวออกไปรับงานทั่วกรุงเทพฯ ก็ตาม ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ได้สัมผัสถึงสมรรถนะเครื่องยนต์ ความประหยัด ความคล่องตัว ขับขี่สบาย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่ในรถจักรยานยนต์ “ยามาฮ่า ฟินน์” ที่ถือได้ว่าเป็นรถครอบครัวที่ประหยัดสูงสุดและให้ความคุ้มค่าที่สุดของยุคนี้ได้ในทุกมิติอย่างแท้จริง
โดยเมื่อถึงเวลา 16.00 น. หนุ่ม Lineman ทั้ง 5 คนที่เข้าร่วมการแข่งขัน “ฟินน์ กล้า…ท้าประหยัด #2 Food Delivery” ต่างก็หยุดรับออเดอร์ทันที พร้อมทั้งขับขี่ “ยามาฮ่า ฟินน์” พาหนะคู่ใจเดินทางกลับมาที่ฐานการแข่งขัน ซึ่งต้องกลับให้ทันก่อนเวลา 17.00 น. ไม่อย่างนั้นจะถูกปรับฟาวล์ ซึ่งทุกคนต่างก็เดินทางกลับมาถึงฐานการแข่งขันทันเวลาก่อนกำหนดทุกคัน หลังจากนั้นกรรมการก็นำรถจักรยานยนต์ “ยามาฮ่า ฟินน์” ทุกคันเข้าเติมน้ำมันเพื่อวัดปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามเกณฑ์มาตรฐานเหมือนกับที่เติมเต็มถัง เพื่อเอามาคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายหักกับรายได้เพื่อหาผู้ชนะการแข่งขันครั้งนี้
สรุปผลการแข่งขัน “ฟินน์ กล้า…ท้าประหยัด #2 Food Delivery” ผลปรากฏว่าผู้ชนะเลิศซึ่งสามารถขับขี่รถจักรยานยนต์ “ยามาฮ่า ฟินน์” ทำงานรับออเดอร์ รับ-ส่งอาหาร ในเวลาเพียง 6 ชม. สามารถทำรายได้สูงสุด 835 บาท…แต่จ่ายค่าน้ำมันเพียงแค่ 33.90 บาทเท่านั้น!!! ตอกย้ำความประหยัดและความคุ้มค่าของที่สุดแห่งรถครอบครัวยุคใหม่อย่าง “ยามาฮ่า ฟินน์” ได้เป็นอย่างดี!!!
ผลการแข่งขัน “ฟินน์ กล้า…ท้าประหยัด #2 Food Delivery”
อันดับที่ 1นายชนินทร์ ใบแบน
อันดับที่ 2นายอนันท์ ทองดี
อันดับที่ 3นายณัฏฐกิตติ์ วัฒนพานิช
อันดับที่ 4นายธนบดี ภิบาลชนม์
อันดับที่ 5นายชยณัฐ สุขเกษม
นอกจากกิจกรรมการแข่งขัน “ฟินน์ กล้า…ท้าประหยัด #2 Food Delivery” แล้ว ยามาฮ่ายังพร้อมให้การสนับสนุนผู้ที่ต้องการอยากได้รถจักรยานยนต์เพื่อนำไปประกอบอาชีพ Food Delivery โดยเฉพาะ ด้วยการจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ สำหรับผู้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์ “ยามาฮ่า ฟินน์” เพื่อไปประกอบอาชีพ Food Delivery ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2563 จำนวน 50 คัน เท่านั้น…เพียงส่งเอกสารการซื้อรถจักรยานยนต์ “ยามาฮ่า ฟินน์” พร้อมทั้งใบประกอบอาชีพรับส่งอาหารมาทางเพจ Facebook Finn Family รับไปเลย บัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 1,000 บาท
สำหรับ “ยามาฮ่า ฟินน์” มีให้เลือกเป็นเจ้าของด้วยกัน 4 รุ่นคือ รุ่น UBS ราคา 47,000 บาท, รุ่นล้อแม็กซ์ สตาร์ทมือ ราคา 45,500 บาท, รุ่นล้อซี่ลวด สตาร์ทมือ ราคา 43,500 บาท และรุ่นล้อซี่ลวด สตาร์ทเท้า ราคา 40,900 บาท และรับสิทธิ์รับประกัน 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง เมื่อซื้อ “ยามาฮ่า ฟินน์” ทุกรุ่นระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 ธันวาคม
โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263-9999 และสามารถติดตามความเคลื่อนไหว และข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่
www.facebook.com/yamahasocietythailand
IG: @yamahasociety
Youtube: Yamaha Society Thailand