คอนติเนนทอล ออโตโมทีฟ แบงคอก ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์ ได้จัดงานแถลงข่าวการคาดการณ์ผลประกอบการประจำปี 2563 พร้อมทั้งนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์มิติใหม่ นำโดยมร. ปีเตอร์ รางเคิล (Mr. Peter Rankl) ประธานฝ่ายบริหารภูมิภาคอาเซียน และดร. ณรงศักดิ์ รัตนสุวรรณชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดภูมิภาคอาเซียน ณ ห้องพาวิลเลียน อีสต์ โรงแรมโรสวูดแบงคอก
ในไตรมาส 3 ของปี 2563 คอนติเนนทอลประสบความสำเร็จในการลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนของบริษัทลงอย่างต่อเนื่อง และได้มีการอนุมัติเม็ดเงินในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเพิ่มเติมโดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2567 ทั้งนี้ถึงแม้ว่ายอดขายของบริษัทในไตรมาสที่ 3 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 ลดลงไป 2.7% แต่เมื่อมองที่ภาพรวมของรายได้มียอดเพิ่มขึ้น 8.1% โดยมีการคาดการณ์รายได้รวมของคอนติเนนทอลกรุ๊ปที่ 37.5 พันล้านยูโร เป็นผลกำไร 3% ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มธุรกิจออโตโมทีฟจะทำรายได้ประมาณ 58.5% ของรายได้ทั้งหมด คิดเป็นจำนวนอยู่ที่ประมาณ 22 พันล้านยูโร
นอกจากนี้คอนติเนนทอลยังคงเดินหน้าโปรเจ็คปฏิรูปองค์กรอย่างยั่งยืนหรือ Transformation C ตั้งแต่ปี 2562-2572 รวมระยะเวลา10 ปี โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ การพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ และส่งเสริมการเติบโตขององค์กรในระยะยาวอย่างยั่งยืน
ในส่วนของนวัตกรรรมยานยนต์ยุคดิจิทัล มีการนำเสนอแบ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจ คือ การขับเคลื่อนอัตโนมัติและความปลอดภัย (Autonomous Mobility and Safety) และ เครือข่ายและการเชื่อมต่อข้อมูลยานพาหนะ (Vehicle Networking and Information) โดยในส่วนแรกมีการนำเสนอเทคโนโลยี Cruising Chauffeur ที่จะเข้าควบคุมการขับขี่ทั้งหมดจากคนขับในขณะที่อยู่บนทางด่วน และเมื่อใกล้สิ้นสุดทางด่วนจะมีการแจ้งเตือนต่าง ๆ เช่น การส่งเสียง กระพริบไฟ ไปจนถึงการสั่นเบาะ เพื่อให้คนขับรับช่วงการขับขี่ต่อบนทางปกติ ซึ่งหากคนขับไม่มีการตอบสนอง รถก็จะหาทางเข้าจอดในบริเวณจอดรถฉุกเฉินโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย เทคโนโลยีต่อมาที่ทำให้คนขับไม่ต้องเสียเวลาในการจอดรถอีกต่อไป คือเทคโนโลยีที่เรียกว่า Valet Parking แค่คนขับลงจากรถตรงจุดส่งรถ จากนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรถในการขับผ่านไม้กั้นและวนเข้าไปหาที่จอดและจอดรถอัตโนมัติอย่างแม่นยำแม้ในพื้นที่แคบ และยังสามารถขับกลับไปหาคนขับ ณ จุดส่งรถโดยอัตโนมัติได้เมื่อมีการกดปุ่มเรียกรถจากแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ
เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความอัจฉริยะในระบบเครือข่ายและการเชื่อมต่อข้อมูลต่าง ๆ คอนติเนนทอลก็ได้มีการนำเสนอ CoSmA ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อระหว่างยานพาหนะเข้ากับโทรศัพท์มือถือ ที่ทำให้เราสามารถสื่อสาร สั่งการ รวมถึงเฝ้าดูรถได้จากโทรศัพท์มือถือ และในส่วนของเทคโนโลยีภายในห้องโดยสาร คอนติเนนทอลได้กล่าวถึงหน้าจอสามมิติที่ดูเป็นธรรมชาติด้วยเทคโนโลยี Lightfield ซึ่งเป็นมิติใหม่ของระบบ 3 มิติที่ทำให้ผู้โดยสารทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และคนขับได้สัมผัสประสบการณ์ 3 มิติโดยไม่ต้องใส่แว่น และไม่รบกวนสมาธิในการขับขี่อีกด้วย และสิ่งขาดไม่ได้เลยในนวัตกรรมยานต์นั้นก็คือ ระบบเทเลเมติกส์ ที่เป็นการเชื่อมต่อยานพาหนะทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล และยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ เข้ากับคลื่นสัญญาณ 5G ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการนำยานพาหนะเข้าสู่โลกแห่งการขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังคลายความกังวลในด้านความปลอดภัยทั้งกับตัวรถและผู้ใช้รถ รวมไปถึงการเข้าถึงความบันเทิงและการอัปเดตแอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์ต่าง ๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ เทคโนโลยีที่นำเสนอมาเกือบทั้งหมดจากคอนติเนนทอลนั้น ได้มีการนำเอามาใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของVolkswagen ID.3 เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์รถยนต์ที่เป็นนวัตกรรมอันล้ำหน้าจากคอนติเนนทอลได้อย่างสมบูรณ์แบบ
คอนติเนนทอล เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับผู้ใช้ยานยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำ ในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ ผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ระหว่างประเทศ ผู้ผลิตยางคุณภาพ และคู่ค้าทางธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม คอนติเนนทอลนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความปลอดภัยสูง พร้อมความสะดวกสบาย ปรับการใช้งานได้ตามความต้องการ และราคาเหมาะสม คอนติเนนทอลประกอบไปด้วยธุรกิจ 5 กลุ่ม คือ ธุรกิจช่วงล่างและความปลอดภัย ธุรกิจอุปกรณ์ภายในรถยนต์ ธุรกิจระบบขับเคลื่อน ธุรกิจยางรถยนต์ และธุรกิจยางเฉพาะทางอิลาสโทเมอร์ ซึ่งมียอดขายรวม 44.5 พันล้านยูโรในปี 2562 ปัจจุบันคอนติเนนทอลมีพนักงานกว่า 233,000 คนใน 59 ประเทศทั่วโลก