บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เดินทัพสู่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 อีกครั้งกับหลากหลายยนตรกรรมล้ำสมัยพร้อมการออกแบบชั้นเลิศ เตรียมเสนอสุดยอดรุ่นยานยนต์ศาสตร์แห่งศิลป์ที่พร้อมเติมเต็มทุกความต้องการ สอดคล้องแนวคิด ‘Colourful Experiences ประสบการณ์ครบทุกสีสัน’ ของการจัดงานในปีนี้ และความมุ่งมั่นในการมอบพลังแห่งทางเลือกให้กับลูกค้าสู่งานมอเตอร์โชว์ 2023 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ณ อาคาร Impact Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี นำทัพรถยนต์ด้วยบีเอ็มดับเบิลยู XM ใหม่ ที่มาเผยโฉมตัวจริงสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก และบีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ อีกหนึ่งรุ่นรถยนต์ที่หลายคนจับตามองจากบีเอ็มดับเบิลยู M การันตีสมรรถนะขั้นสูงและการออกแบบสัดส่วนตัวรถอันทรงพลัง ผู้เข้าชมงานมอเตอร์โชว์ 2023 ยังจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับรถยนต์ซีดานปลั๊กอินไฮบริดขนาดกลางสุดหรูกับบีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ใหม่ พร้อมสัมผัสขุมพลังไฟฟ้าล้วนกับบีเอ็มดับเบิลยู i4 eDrive35 M Sport ใหม่ ที่ผสานเอกลักษณ์สไตล์ Gran Coupe เข้ากับสมรรถนะพลังงานไฟฟ้าอันทรงพลัง และบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่ ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้า eDriveทรงประสิทธิภาพและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยไฟฟ้า
ด้านมินิ เผยโฉมรถยนต์ที่มอบ ‘ประสบการณ์ครบทุกสีสัน’ อย่างแท้จริง ด้วยรถยนต์มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน รุ่น Multitone Red ใหม่ ปลดปล่อยตัวตนไม่ซ้ำใครและบุคลิกอันโดดเด่นผ่านนวัตกรรมการพ่นสี Multitone ด้วยเทคนิคการลงสีเปียกบนเปียก กับการไล่เฉดสีแดงสดใส ในขณะที่รถยนต์มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ คลาสสิก ใหม่ ในสีเหลือง Zesty Yellow ดึงดูดทุกสายตาบนท้องถนนด้วยอัตลักษณ์จิตวิญญาณสไตล์โกคาร์ทในตำนานที่เร่งเครื่องพาให้ทุกหัวใจเต้นแรงราวอยู่บนสนามแข่ง
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เร่งเครื่องสู่ท้องถนนด้วยสุดยอดมอเตอร์ไซค์ซูเปอร์สปอร์ต กับบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปราดเปรียวยิ่งกว่าและสมรรถนะที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ด้านบีเอ็มดับเบิลยู R 18 B และ R 18 Transcontinental มอบประสบการณ์ทัวริ่งสุดหรูผสมผสานเครื่องยนต์ ‘บิ๊กบ็อกเซอร์’ อันทรงพลังเข้ากับดีไซน์สุดคลาสสิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นมอเตอร์ไซค์ในตำนาน พร้อมสร้างความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าที่ซื้อมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นด้วยการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางและบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินหรือ โมบิลิตี้ เซอร์วิส เป็นระยะเวลา 5 ปี*นอกจากนี้ ในครั้งนี้มาให้เลือกกับสีสันที่หลากหลายยิ่งขึ้น และร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบ 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และความหลงใหลในการ ‘Make Life a Ride’ ไปกับนิทรรศการพิเศษที่ผู้เข้าชมงานมอเตอร์โชว์ 2023 จะได้โลดแล่นไปด้วยกันกับการเดินทางจากอดีตสู่อนาคตของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด พร้อมสัมผัสมอเตอร์ไซค์รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น กับบีเอ็มดับเบิลยู R 18 100 YEARS ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีนี้โดยเฉพาะ
มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดปีที่ผ่านมา แม้เราต้องเผชิญกับปัจจัยเศรษฐกิจที่ท้าทายมากมาย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงยืนหยัดรักษาตำแหน่งและความมุ่งมั่นของเราเสมอมา และเป็นอีกครั้งที่เราสามารถก้าวเข้ามาสู่แนวหน้าของเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมได้อย่างภาคภูมิเป็นปีที่สามติดต่อกัน ซึ่งความสำเร็จนี้เป็นไปได้เพราะลูกค้าทุก ๆ คนที่มอบความไว้วางใจให้กับเรา อย่างที่เห็นได้จากคะแนนNet Promoter Score ด้านการขายและการให้บริการที่มากขึ้น ความมุ่งมั่นของเราต่อปรัชญาพลังแห่งทางเลือกในฐานะกลยุทธ์หลักของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงแข็งแกร่งไม่สั่นคลอน ด้วยไลน์อัพรุ่นยนตรกรรมที่เราเลือกนำมาสู่งานมอเตอร์โชว์ 2023 เราพร้อมเสนอผลิตภัณฑ์ ระบบขับเคลื่อน และการให้บริการที่หลากหลาย ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าได้ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังคงมุ่งยกระดับประสบการณ์ลูกค้าผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับการบริการที่น่าประทับใจและสะดวกสบายยิ่งขึ้น และสามารถเข้าถึงการบริการของเราได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยระบบการจองรถแบบออนไลน์ทาง https://shop.bmw.co.th ที่ได้รับการพัฒนาให้ลูกค้าสามารถปรับแต่ง เลือกสีภายนอก ภายใน รวมถึงเลือกผู้จำหน่ายรถยนต์ที่สะดวก และบริการทางการเงินที่เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด”
“ทั้งนี้ ปีนี้ยังเป็นปีพิเศษที่เราจะได้เฉลิมฉลองการครบรอบ ‘Make Life a Ride’ 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ที่เราหวังว่าผู้เข้าชมงานจะดำดิ่งไปกับประวัติศาสตร์แห่งความหลงใหล การผจญภัย วิสัยทัศน์ และความสำเร็จอันยาวนานของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ผ่านนิทรรศการพิเศษที่เรานำมาจัดภายในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ที่บูธ M8/1A”
ไฮไลท์รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล
มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44
บีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่
ราคาจำหน่าย: 6,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ สุดยอดรถยนต์ในดวงใจของแฟน ๆ ตระกูล M หวนคืนสู่วงการรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอีกครั้ง มาพร้อมกับการปรับแต่งที่โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้า ผสมผสานขนาดกะทัดรัด ระบบส่งกำลัง และเทคโนโลยีแชสซีไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปราดเปรียวและการตอบสนองทรงประสิทธิภาพ พร้อมความสามารถในการควบคุมที่ทำได้อย่างง่ายดายแม้ในสภาวะการขับขี่ที่ดุดันสุดขีดจำกัด รูปลักษณ์สปอร์ตปราดเปรียวของบีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ มีที่มาจากสัดส่วนที่ทรงพลังเป็นพิเศษและลักษณะการออกแบบสไตล์ M อันโดดเด่น มาพร้อมระยะฐานล้อที่สั้นลง 110 มิลลิเมตร รวมถึงดีไซน์ภายนอกที่สั้นกว่าบีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupé ถึง 214 มิลลิเมตร
กระจังหน้าทรงไตคู่แนวนอนขนาดใหญ่แบบไร้กรอบ ผสานกับช่องดักอากาศที่แบ่งออกเป็นสามส่วนในรูปทรงเกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมส่งให้ส่วนหน้าของตัวรถมีรูปลักษณ์แบบ M ที่คุ้นเคย ตัวรถยังถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความจำเป็นเชิงเทคนิคในการระบายอากาศและสมดุลอากาศพลศาสตร์ ด้านท้ายของบีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ ยังดูสะดุดตาด้วยขอบสปอยเลอร์บนฝากระโปรงหลัง แผ่นสะท้อนแสงจัดวางในแนวตั้ง ดิฟฟิวเซอร์ที่กันชนท้าย และปลายท่อไอเสียสองคู่ที่สองข้างท้ายของตัวรถ
หัวใจของบีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ คือขุมพลังเบนซิน 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo ส่งพลังสูงสุด 338 กิโลวัตต์ / 460 แรงม้า ที่ 6,250 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 2,650 – 5,870 รอบต่อนาที โลดแล่นจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 4.1 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สมรรถนะแบบไดนามิกยังผสานเข้ากับระบบขับเคลื่อนล้อหลังร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogic เพิ่มการเปลี่ยนเกียร์ให้สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยระบบการเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์โดยตรง พร้อมความสามารถในการลดเกียร์ลงหลายระดับจนถึงเกียร์ต่ำสุด ระบบส่งกำลังพื้นฐานนี้มีส่วนสำคัญในการเร่งความเร็วแบบทันทีทันใดได้อย่างน่าประทับใจ โหมดการขับขี่ M Drive Professional ช่วยเสริมความเร้าใจในการขับขี่ให้มากขึ้น มาพร้อมระบบเฟืองท้าย M Sport เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและเสถียรภาพในการขับขี่เมื่อเปลี่ยนเลนหรือเร่งความเร็วออกจากโค้ง และเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงหรือบนพื้นผิวถนนที่แตกต่างกัน นอกจากนั้น ช่วงล่าง Adaptive M Suspension ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้อย่างอิสระระหว่างรูปแบบการขับขี่แบบสะดวกสบายหรือสไตล์สปอร์ต
ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาและโคมไฟหน้าตกแต่งสีดำสไตล์ M และเสริมความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยระบบไฟหน้าAdaptive LED ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam assistant) ชุดเบรก M Compound สีแดงเงา และหลังคาM Carbon ภายในอวดโฉมการตกแต่งสไตล์สปอร์ตด้วยชุดไฟส่องสว่างภายในและภายนอกห้องโดยสาร (Ambient light) หลังคาภายในดีไซน์ M สีดำ Anthracite และคอนโซลด้านบนบุด้วยหนังแบบ BMW Individual เสริมลุคที่แตกต่างภายในห้องโดยสารด้วยการตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M เบาะนั่งดีไซน์ M Sport เบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ และกาบบันไดดีไซน์ M แบบเรืองแสง
BMW Live Cockpit Professional นำเสนอจอแสดงข้อมูลสำหรับคนขับที่ทันสมัยผ่านจอโค้ง BMW Curved Display ซึ่งเป็นระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทำงานร่วมกับระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พร้อมระบบความบันเทิงและการสื่อสารล้ำสมัยด้วยจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับจอแสดงข้อมูล 12.3 นิ้ว นอกจากนี้ ระบบ BMW ConnectedDrive และ BMW Connected Package Professional ยังนำเสนอคุณสมบัติและบริการขั้นสูงมากมายที่ช่วยให้การขับขี่สะดวก มีประสิทธิภาพ และสนุกสนานยิ่งขึ้น ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon มอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูงอันดื่มด่ำที่สามารถปรับแต่งได้ จึงช่วยให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ประทับใจยิ่งขึ้น
ความปลอดภัยในการขับขี่ได้รับการยกระดับไปอีกขั้นด้วยระบบต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC) ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (BA) เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash sensor) ระบบ Teleservices และปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)
บีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ มีมาให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีฟ้า Zandvoort Blue Solid, สีขาว Alpine White Solid, สีแดง Toronto Red Metallic, สีเทา Brooklyn Grey Metallic และสีดำ Black Sapphire Metallic โดยสามารถเลือกการตกแต่งภายในด้วยเบาะหนัง Vernasca ในสี Black/Exclusive Highlight, สี Black/Contrast Stitching Blue, และสี Cognac Decor Stitching หรือเบาะหนัง Alcantara/Sensatec Combination ในสี Black/Contrast stitching Blue และที่สำคัญ ลูกค้าสามารถทำการจองบีเอ็มดับเบิลยู M2 โฉมใหม่ ได้ทางออนไลน์ ผ่าน https://shop.bmw.co.th โดยลูกค้าสามารถเลือกปรับแต่งรถยนต์ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกสีภายนอก ภายใน รวมถึงตัวเลือกล้ออีก 2 ตัวเลือก ได้แก่ ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา M ลาย 930 M Double Spoke แบบสลับสี หรือ สีดำ Jet Black
บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ใหม่
ราคาจำหน่าย: 3,269,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ใหม่ โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่หรูหราด้วยชิ้นส่วนตกแต่งโครเมี่ยมและเส้นสายทรงพลังทั้งบริเวณด้านหน้าและท้ายรถ มาพร้อมกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ในรูปทรงแปดเหลี่ยมล้อมรอบด้วยกรอบโครเมียม ยาวลงมาบรรจบกับกันชนหน้า ล้อมรอบด้วยกรอบที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว ส่วนบนของซี่ในกระจังหน้ายื่นออกมาเล็กน้อย สร้างมิติที่สอดรับกับไฟหน้า Adaptive LED รูปตัว L ในดีไซน์เรียวยาวดูดุดันยิ่งขึ้น ช่องดักอากาศแนวตั้งทั้งสองข้างในกรอบโครเมียมบนกันชนหน้าเสริมความโดดเด่นให้แก่การเล่นเส้นสายของดีไซน์แบบใหม่ เน้นย้ำถึงความสง่างามและทรงพลังกว่าที่เคย
บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ใหม่ มอบประสิทธิภาพเต็มพิกัดจากทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและระบบปลั๊กอินไฮบริด พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ใหม่ล่าสุด โดยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ มอบพละกำลัง 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด ส่งกำลังรวมสูงสุดถึง 215 กิโลวัตต์ / 292 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 420 นิวตันเมตร ซึ่งพละกำลัง 292 แรงม้า เป็นผลจากการเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นด้วยระบบ XtraBoost ซึ่งปลดปล่อยพละกำลังเสริมมากถึง 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาทีเมื่อขับขี่ในโหมด SPORT จึงสามารถโลดแล่นจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรได้ภายใน 5.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยสามารถขับขี่แบบไร้มลพิษได้เป็นระยะทาง 52 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่แรงดันสูงความจุ 12 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่ติดตั้งอยู่ใต้เบาะหลัง บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ใหม่ มาพร้อมล้ออัลลอยลาย V-spoke ขนาด 18 นิ้ว
เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ในบีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ใหม่ ได้รับการยกระดับให้ล้ำสมัยยิ่งกว่าที่เคย เพื่อช่วยเหลือการขับขี่ในสภาวะที่หลากหลาย พร้อมปูทางสู่เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) และฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในสภาวะต่าง ๆ เช่น ระบบควบคุุมความเร็วคงที่่ พร้อมฟังก์ชั่นช่วยลดความเร็ว (Cruise Control with braking function) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่่ (Attentiveness Assistant) นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยอีกมากมายในทุกรุ่นเพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ เช่น เซนเซอร์ควบคุุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection) ระบบ Active Protection และเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง (Park Distance Control) ระบบช่วยนำรถเข้าที่่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) ยังช่วยยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายโดยเฉพาะขณะถอยจอดและจอดขนาน
อีกหนึ่งความโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ใหม่ คือการออกแบบภายในห้องโดยสารที่ยังคงเน้นการผสานทั้งความสง่างามและความล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน โดยยังคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นสำคัญ จึงสร้างบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบทั้งสำหรับการขับขี่และมอบความสะดวกสบายแม้ขณะเดินทางไกล ตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียมและงานฝีมือสุดประณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ Sport พร้อมคอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมเบาะหนังแท้ Dakota ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยลายไม้แบบ Fineline Ridge พร้อมแถบโครเมียม
บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ใหม่ ยังได้รับการพัฒนาในด้านระบบความบันเทิงและการสื่อสารให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยจอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฎิบัติการ BMW Operating System 7 ที่ปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ยังช่วยมอบความเพลิดเพลินด้วยคุณภาพเสียงที่เหนือชั้นในขณะขับขี่ ระบบปลดล็อกประตููอัจฉริยะ (Comfort Access System) ระบบเปิด–ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant) ระบบไฟหน้าแบบ LED และกระจกมองข้างตัดแสงอัตโนมัติ ยังช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถอีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ขับขี่สามารถเลือกควบคุมระบบการทำงานของรถยนต์ ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร ระบบการเชื่อมต่อ และระบบนำทางได้ผ่านทางจอ Control Display ระบบสัมผัส ระบบ iDrive ปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่นบนพวงมาลัย ระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน BMW Intelligent Personal Assistant และ BMW gesture control
บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ใหม่ มีให้เลือกใน 3 ตัวเลือกสี ได้แก่ ตัวถังภายนอกสีขาว Alpine White สีดำ Black Sapphire Metallic และสีน้ำเงิน Phytonic Blue
บีเอ็มดับเบิลยู i4 eDrive35 M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 3,899,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)