GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุดGWM ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการยานยนต์จีน ด้วยการลงนามบันทึกความร่วมมือ “GWM • CAA China Antarctic and Arctic Research Expedition Cooperation Signing Ceremony” ร่วมกับสถาบันวิจัยขั้วโลกของจีน (Polar Research Institute of China: PRIC) ณ ศูนย์เทคโนโลยี GWM เมืองเป่าติ้ง เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ในพิธีดังกล่าวได้มีการแต่งตั้ง GWM TANK 300 DIESEL ให้เป็นรถยนต์ที่ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการสำหรับปฏิบัติภารกิจสำรวจขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ของจีน เพื่อใช้เป็นรถสนับสนุนภารกิจหลักประจำสถานี Great Wall Station ณ ทวีปแอนตาร์กติกา รถยนต์รุ่นนี้ได้ผ่านการทดสอบสมรรถนะในทุกมิติ ทั้งระบบขับเคลื่อน สมรรถนะออฟโรด ความทนทานในสภาวะอุณหภูมิต่ำสุดขั้ว และประสิทธิภาพระบบเชื้อเพลิง จนได้รับการยืนยันว่า GWM คือแบรนด์ที่มีความพร้อมสูงสุดในด้านเทคโนโลยี ความทนทาน และสมรรถนะระดับโลก การร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์นี้จึงไม่เพียงตอกย้ำศักยภาพของGWM ในฐานะผู้นำยานยนต์อัจฉริยะระดับโลก แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์จีนในการสนับสนุนภารกิจทางวิทยาศาสตร์ระดับชาติสู่การพิชิตพื้นที่สุดขั้วของโลกอย่างทรงพลัง
เหนือทุกขีดจำกัด GWM TANK 300 DIESEL พิสูจน์ความแกร่งจากห้องวิจัยสู่แอนตาร์กติกา
คณะผู้เชี่ยวชาญจาก PRIC เดินทางเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาของ GWM เพื่อประเมินขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีและมาตรฐานการทดสอบระดับโลกภายในศูนย์ทดสอบการเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อม (Environmental Wind Tunnel Lab) รถยนต์ GWM TANK 300DIESEL ถูกนำมาทดสอบภายใต้อุณหภูมิติดลบกว่า 30 องศาเซลเซียส พร้อมจำลองสภาพพายุหิมะสุดขั้วเช่นเดียวกับในทวีปแอนตาร์กติกา ผลการทดสอบเผยให้เห็นถึงความเหนือชั้นของระบบวิศวกรรมของ GWM ที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เพียงสัมผัสเดียวแม้ในสภาพหนาวจัด ระบบละลายน้ำแข็งและทำความร้อนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ขณะที่กระบวนการตรวจสอบคุณภาพกว่า 2,000 รายการที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งระบบความปลอดภัยเชิงรุก–เชิงรับ (Active & Passive Safety), ระบบการจัดการความร้อน (Thermal Management), เสียงและการสั่นสะเทือน (NVH) รวมถึงความทนทานต่อการใช้งานระยะยาว (Durability)สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะของ GWM ที่พร้อมรองรับทุกภารกิจสุดขั้ว ตั้งแต่ห้องแล็บจนถึงขั้วโลกใต้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เบื้องหลังความสมบูรณ์แบบทางวิศวกรรมที่ไร้ข้อจำกัดของ GWM TANK 300
จากรายงาน 2025 China Automotive Product Quality Performance Study (AQR) ล่าสุดGWM TANK 300 ได้รับการจัดอันดับให้ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งด้านคุณภาพและสมรรถนะในกลุ่มรถ SUV จากผู้ผลิตอิสระของประเทศจีน แสดงถึงความเชื่อมั่นในความทนทาน ความแม่นยำ และความประณีตทางวิศวกรรมของแบรนด์อย่างแท้จริง ตลอดระยะเวลา 4 ปีนับตั้งแต่เปิดตัว GWM TANK 300 ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยการอัปเกรดกว่า 481รายการ เพื่อเสริมความทนทานและความน่าเชื่อถือ และในรุ่นปี 2025 ยังได้รับการปรับปรุงเพิ่มอีก 43 รายการ โดยเน้นยกระดับสมรรถนะสู่มาตรฐานระดับโลก พร้อมระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ที่เสถียรและแม่นยำยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยโครงสร้างตัวถังแบบวงแหวน (Ring-shaped Structural Design) ผลิตจากเหล็กกล้าความแข็งแรงสูงกว่า 70% ของทั้งคัน และใช้เหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงที่ระดับ 1,500 MPa อีกกว่า 20% ทำให้หลังคาสามารถรับแรงกดได้มากกว่า 15 ตัน สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมหลายเท่าตัว ช่วงล่างถูกออกแบบด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงกว่ารถทั่วไปถึง 3 เท่า พร้อมค่าความแข็งแรงในการบิดตัว 284.5 kN·m/rad มอบสมรรถนะการขับขี่ที่มั่นคงในทุกสภาพถนน สมกับฉายา “ผู้พิทักษ์ที่มองไม่เห็น (Invisible Guardian)” ของผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.4Tเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดที่ผ่านการทดสอบเข้มข้นกว่า 14,000 ชั่วโมงในห้องทดลอง (เทียบเท่าการขับขี่ 4.8 ล้านกิโลเมตร) และการทดสอบภาคสนามด้วยรถต้นแบบกว่า 60 คัน รวมระยะกว่า 4.2 ล้านกิโลเมตร เพื่อพิสูจน์สมรรถนะ ความทนทาน และความเงียบระดับพรีเมียม ด้วยระดับเสียงรอบเดินเบาไม่เกิน 65 เดซิเบล ถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานใหม่ของเครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่ที่พร้อมพิสูจน์ความเหนือชั้นในทุกสมรภูมิ
จากความสำเร็จระดับโลกสู่การพิชิตขั้วโลกใต้
ณ เดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา GWM TANK 300 ยืนหยัดในฐานะหนึ่งในรถยนต์ระดับโลกที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดด้วยยอดขายสะสมทั่วโลกทะลุ 470,000 คัน โดยกว่า 400,000 คัน เป็นผู้ใช้ในประเทศจีน ซึ่งทั้งหมดได้ร่วมกันขับขี่รวมระยะทางกว่า 17.2 พันล้านกิโลเมตร หรือเทียบเท่าการโคจรรอบโลกกว่า 430,000 รอบ ยืนยันความแข็งแกร่งและความทนทานระดับตำนาน สมฉายา “รถ TANK ที่ไม่มีวันพัง (The Unbreakable TANK)” อย่างแท้จริง ปัจจุบันมีผู้ใช้มากกว่า 22,000 คน ที่ขับขี่เกินระยะทางกว่า 100,000 กิโลเมตรต่อคน ตอกย้ำความไว้วางใจในคุณภาพและความคงทนของยนตรกรรมรุ่นนี้
ขณะเดียวกันในตลาดต่างประเทศ GWM ยังคงสร้างสถิติการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในประเทศไทย ที่เพียง 6 เดือนหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ GWM TANK 300 DIESEL ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา รถยนต์ระดับพรีเมียมรุ่นนี้สามารถสร้างยอดขายสะสมทะลุ 5,000 คันทั่วประเทศ พร้อมก้าวขึ้นสู่3 อันดับแรกของกลุ่ม PPV และสามารถครองตำแหน่งอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง (SUV-C) ได้อย่างรวดเร็ว ความสำเร็จดังกล่าวตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคชาวไทยที่มีต่อสมรรถนะอันทรงพลัง ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์แห่งความแกร่งในแบบฉบับของ GWM TANK 300 DIESEL
ขับเคลื่อนโลกด้วยเทคโนโลยี ด้วยเครือข่ายวิจัยระดับโลกของ GWM
ปัจจุบัน GWM ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ระดับโลกด้วยการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) รวมกว่า 10แห่งใน 7 ประเทศ ครอบคลุมประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยีอย่าง ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี สร้างเครือข่ายนวัตกรรมระดับโลก “7ประเทศ 10 ศูนย์วิจัย” ที่ทำงานเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในทุกมิติของยนตรกรรมอนาคต โดยมีโครงการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงกว่า 110 โครงการ ครอบคลุมตั้งแต่ระบบขับเคลื่อน พลังงานใหม่ ห้องโดยสารอัจฉริยะ ไปจนถึงระบบขับขี่อัตโนมัติ ทั้งหมดนี้คือพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ GWM สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อัจฉริยะที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่อง
ด้านเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน GWM ได้พัฒนาสถาปัตยกรรมระบบขับเคลื่อนหลัก 3 รูปแบบ ได้แก่ Hi4, Hi4-Z และ Hi4-T ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการขับขี่ในทุกสภาพเส้นทาง ตั้งแต่การใช้งานในเมืองจนถึงออฟโรดสุดขั้ว โดยเฉพาะเทคโนโลยี Hi4-T ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อสายผจญภัยโดยเฉพาะ ภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อนด้วยพลังน้ำมัน เสริมประสิทธิภาพด้วยพลังไฟฟ้า” พร้อมระบบเกียร์อัจฉริยะ 9HAT แบบวางตามยาวที่ GWM พัฒนาขึ้นเองเป็นรายแรกของจีน ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับชุดเกียร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รองรับทั้งโหมดไฟฟ้าล้วน โหมดน้ำมัน และโหมดไฮบริด มอบสมรรถนะทรงพลัง ควบคู่กับความยืดหยุ่นสูงสุดในทุกสภาพภูมิประเทศ
การเดินทางของ GWM TANK 300 DIESEL สู่สถานี Great Wall Station ในทวีปแอนตาร์กติกา คือสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน ที่พิสูจน์แล้วว่ายานยนต์จีนสามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพแม้ในสภาวะสุดขั้วของโลก GWM ได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของเทคโนโลยี ความทนทาน และสมรรถนะระดับโลกอย่างแท้จริง จาก “Great Wall Motor” สู่ “Great Wall Station” ที่ยังคงเดินหน้าสนับสนุนภารกิจการสำรวจขั้วโลกของประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศศักดาให้ทั่วโลกได้เห็นถึงคุณภาพ ความทนทาน และศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์จีน ที่พร้อมพิชิตทุกความท้าทายอย่างทรงพลัง
#GWM #GWMThailand #GWMTANK300 #GWMTANK300DIESEL#Antarctica